ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิต สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) และอันดับเครดิตพันธบัตรรัฐบาลชุดปัจจุบันของ สปป.ลาว ที่ระดับ ?BBB-? แนวโน้ม ?Negative? หรือ ?ลบ? พร้อมกันนี้ ทริสเรทติ้งยังจัดอันดับเครดิตพันธบัตรรัฐบาลชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 3.6103 พันล้านบาทของ สปป.ลาว ที่ระดับ ?BBB-? ด้วย โดยเงินที่ได้จากการออกพันธบัตรชุดใหม่นี้จะใช้เพื่อชำระคืนหนี้
อันดับเครดิต ?BBB-? สะท้อนถึงสถานะเครดิตประเทศของ สปป.ลาว ซึ่งเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดเล็กและมีศักยภาพในการขยายตัวที่สูงรวมทั้งมีระบบการเมืองที่มีเสถียรภาพ ทริสเรทติ้งคาดว่าการลงทุนในสินทรัพย์โครงสร้างพื้นฐานที่มีศักยภาพในการสร้างผลผลิตจะเป็นแหล่งที่มาของรายได้ที่มีเสถียรภาพของรัฐบาล สปป.ลาว ได้ในระยะยาว อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงสถานะสภาพคล่องทางการเงินที่มีจำกัดและหนี้สาธารณะที่อยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับขนาดเศรษฐกิจและยังได้รับแรงกดดันเพิ่มเติมจากการอ่อนค่าของเงินกีบอีกด้วย
เงินที่ได้จากการออกพันธบัตรรัฐบาลชุดใหม่จะเป็นแหล่งสภาพคล่องเพิ่มเติมในการชำระหนี้ในอนาคตของ สปป.ลาว ตราสารหนี้สกุลเงินบาทที่ครบกำหนดชำระในปี 2566 มีมูลค่า 3.6103 พันล้านบาท ภาระหนี้ต่างประเทศที่จะครบกำหนดชำระในปี 2566 มูลค่ารวม 1.53 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากข้อมูลของกระทรวงการเงินลาว (Ministry of Finance of the Lao PDR -- MOFL) โดยจำนวน 884 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากจำนวนดังกล่าวเป็นดอกเบี้ยและเงินต้นทางการค้า สปป.ลาว มีหนี้สาธารณะทั้งหมดอยู่ที่ 1.0413 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ณ สิ้นปี 2564 โดย 60% เป็นเงินกู้ที่มีเงื่อนไขผ่อนปรน 85% เป็นหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยคงที่ และ 88% เป็นเงินกู้ระยะยาว
สปป.ลาว มีหนี้สาธารณะอยู่ที่ระดับ 98% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (Gross Domestic Product ? GDP) ณ สิ้นปี 2565 เนื่องจากการอ่อนค่าลงอย่างมากของค่าเงินกีบ ทริสเรทติ้งประเมินว่าตัวเลขดังกล่าวจะค่อย ๆ ลดลงสู่ระดับ 80% ณ สิ้นปี 2567 จากการที่ GDP จะขยายตัวอย่างต่อเนื่องภายใต้สมมติฐานว่าค่าเงินกีบจะไม่อ่อนค่าลงมากนักจากระดับปัจจุบัน และมูลค่าของหนี้ในสกุลเงินเดิมจะค่อย ๆ ลดลงจากมาตรการรัดเข็มขัดทางการคลัง (Fiscal Consolidation) สำหรับในช่วงปี 2566-2567 ทริสเรทติ้งคาดว่า สปป.ลาว จะสามารถเกินดุลทางการคลังเบื้องต้น (Primary Fiscal Surplus) ได้ที่ระดับประมาณ 1% ของ GDP ในขณะที่มีการขาดดุลการคลังโดยรวม (Fiscal Deficit) ที่ระดับประมาณ 1.4% ของ GDP
ทริสเรทติ้งคาดว่าสถานะของภาคการต่างประเทศที่เปราะบางจะค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้นในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า โดยประเมินว่าทุนสำรองเงินตราต่างประเทศจะเพิ่มสู่ระดับ 1.32 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ณ สิ้นปี 2567 หรือประมาณ 2 เดือนของการนำเข้าสินค้า การปรับตัวดีขึ้นของดุลการชำระเงินน่าจะเกิดขึ้นได้จากการส่งออกขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ราคาน้ำมันที่ค่อย ๆ ปรับตัวลดลง และการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (Foreign Direct Investment -- FDI) ที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น โดยมีปัจจัยกระตุ้นสำคัญจากการเพิ่มขึ้นของกำลังการผลิตไฟฟ้าเพื่อการส่งออกและการเปิดพรมแดนของประเทศจีนซึ่งได้รับการสนับสนุนจากทางรถไฟเชื่อมลาว-จีน ทริสเรทติ้งคาดว่าภาระหนี้ต่างประเทศสุทธิของ สปป.ลาว จะยังคงอยู่ในระดับสูงโดยภาระการชำระคืนหนี้ต่างประเทศน่าจะมีขนาดใกล้เคียงกับขนาดทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ และประเมินว่ายอดหนี้ต่างประเทศของภาครัฐและเอกชนรวมกันจะอยู่ที่ระดับประมาณ 1.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2565
ทริสเรทติ้งคาดว่าการเติบโตของ GDP ที่แท้จริง (Real GDP) ในสกุลเงินกีบจะอยู่ที่ระดับประมาณ 4.5% ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้าจากเศรษฐกิจภายในประเทศที่ปรับตัวดีขึ้น สภาพเศรษฐกิจมหภาคที่มีเสถียรภาพมากขึ้น และการเปิดประเทศของจีน การเปลี่ยนแปลงเฉลี่ยของดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index -- CPI) แบบปีต่อปีจะมีแนวโน้มลดลงจาก 23% ในปี 2565 ในขณะเดียวกัน ก็คาดว่าจะเห็นค่าเงินกีบมีเสถียรภาพมากขึ้นจากพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปของดุลการชำระเงินและภาวะการเงินโลกที่ผ่อนคลายลง ทั้งนี้ ประสิทธิภาพของนโยบายการเงินน่าจะคงอยู่ในระดับจำกัดเนื่องจากระบบเศรษฐกิจมีการใช้เงินดอลลาร์ในระดับสูง
แนวโน้มอันดับเครดิต
แนวโน้ม ?Negative? หรือ ?ลบ? สะท้อนถึงสถานะของภาคการต่างประเทศและภาระหนี้สาธารณะที่ถดถอยกว่าคาดเนื่องจากค่าเงินกีบลาวอ่อนค่าลงอย่างมากในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา พร้อมกับมีโอกาสที่จะเสื่อมถอยอย่างต่อเนื่องในระยะเวลาอันใกล้ และยังสะท้อนถึงมุมมองว่าอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงจะยังคงเป็นปัจจัยลดทอนความน่าเชื่อถือของผู้ดำเนินนโยบายทางการเงินในการรักษาเสถียรภาพด้านราคาเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน
ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง
ทริสเรทติ้งอาจพิจารณาปรับลดอันดับเครดิตลง หากสถานะของภาคการต่างประเทศและภาระหนี้สาธารณะของ สปป.ลาว ไม่มีสัญญาณของการพัฒนาที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งอาจปรับลดอันดับเครดิตหากมีสัญญาณที่บ่งชี้ถึงความเสี่ยงด้านสภาพคล่องที่เพิ่มสูงขึ้น หรือสถานะการคลังเสื่อมถอยลงอย่างมาก
ทริสเรทติ้งอาจพิจารณาปรับแนวโน้มเป็น ?Stable? หรือ ?คงที่? หากสถานะของภาคการต่างประเทศและภาระหนี้สาธารณะมีพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากการมีสัญญาณจากการแข็งค่าของค่าเงินกีบ ดุลการชำระเงินที่ปรับตัวดีขึ้นซึ่งนำไปสู่การสะสมของทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ แนวโน้มเงินเฟ้อลดลงอย่างยั่งยืน และ/หรือการฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องของภาคเศรษฐกิจ
ทริสเรทติ้งอาจปรับอันดับเครดิตเพิ่มขึ้นหากรัฐบาล สปป.ลาว แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าในการพัฒนาพื้นฐานทางเศรษฐกิจตลอดจนสถานะทางการคลังและภาคการต่างประเทศได้อย่างมีนัยสำคัญ รวมทั้งสามารถสร้างเสถียรภาพของแหล่งเงินทุนเพื่อรองรับภาระหนี้ในอนาคต
เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง
- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตประเทศ (Sovereign Rating), 26 สิงหาคม 2565
- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้, 15 มิถุนายน 2564
สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว)
อันดับเครดิตประเทศ: BBB-
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
MOFL23NA: พันธบัตรรัฐบาล 1,063.80 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 BBB-
MOFL23NB: พันธบัตรรัฐบาล 2,546.50 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 BBB-
MOFL24OA: พันธบัตรรัฐบาล 340.90 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 BBB-
MOFL253A: พันธบัตรรัฐบาล 1,119.20 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 BBB-
MOFL256A: พันธบัตรรัฐบาล 6,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 BBB-
MOFL263A: พันธบัตรรัฐบาล 3,880.8 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2569 BBB-
MOFL26NA: พันธบัตรรัฐบาล 1,371.50 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2569 BBB-
MOFL27OA: พันธบัตรรัฐบาล 2,967.00 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2570 BBB-
MOFL28NA: พันธบัตรรัฐบาล 1,891.30 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2571 BBB-
MOFL28NB: พันธบัตรรัฐบาล 532.50 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2571 BBB-
MOFL29OA: พันธบัตรรัฐบาล 1,505.50 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2572 BBB-
MOFL30NA: พันธบัตรรัฐบาล 2,153.20 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2573 BBB-
MOFL32OA: พันธบัตรรัฐบาล 5,375.50 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2575 BBB-
MOFL25DA: พันธบัตรรัฐบาล 162 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไถ่ถอนปี 2568 BBB-
MOFL27DA: พันธบัตรรัฐบาล 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไถ่ถอนปี 2570 BBB-
พันธบัตรรัฐบาล ในวงเงินไม่เกิน 3,610.3 ล้านบาท ไถ่ถอนภายใน 4 ปี BBB-
แนวโน้มอันดับเครดิต: Negative