ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) และอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันของบริษัทที่ระดับ ?A-? ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? ทริสเรทติ้งยังจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดใหม่ของบริษัทในวงเงินไม่เกิน 1 พันล้านบาทและหุ้นกู้สำรองเพื่อการเสนอขายเพิ่มเติม (Over-allotment) ในวงเงินไม่เกิน 500 ล้านบาทไถ่ถอนภายใน 3 ปี 6 เดือนที่ระดับ ?A-? ด้วยเช่นกัน โดยบริษัทจะนำเงินไปใช้ในการดำเนินงานและชำระคืนหนี้
อันดับเครดิตองค์กรได้รับการยกระดับเพิ่มขึ้นจากอันดับเครดิตเฉพาะของบริษัท (Stand-alone Credit Profile ? SACP) ที่ระดับ ?bbb+? เพื่อสะท้อนถึงการที่บริษัทมีสถานะเป็นบริษัทลูกที่มีความสำคัญในเชิงกลยุทธ์ของ บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) (อันดับเครดิต ?A/Stable?) โดยอันดับเครดิตที่ได้รับการยกระดับสะท้อนถึงการที่บริษัทสร้างรายได้และกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งให้แก่บริษัททุนธนชาต ในขณะที่บริษัทก็ได้รับการสนับสนุนทั้งในด้านธุรกิจและการเงินจากบริษัททุนธนชาตเช่นกัน
อันดับเครดิตเฉพาะของบริษัทสะท้อนถึงความเข้มแข็งของสถานะทางการตลาดของบริษัทซึ่งได้แก่สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ที่เน้นรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์และรถยนต์หรู นอกจากนี้ อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงความสามารถในการรักษาสถานะทางการตลาด ตลอดจนการมีฐานทุนที่แข็งแรง และผลประกอบการทางการเงินที่ดีของบริษัทอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งดังกล่าวก็ถูกลดทอนลงจากความกังวลในเรื่องสภาวะการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์และความไม่แน่นอนของสภาพเศรษฐกิจ
ความชำนาญทางด้านสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ของบริษัทยังคงทำให้บริษัทดำรงสถานะในการเป็นผู้นำทางการตลาดรายหนึ่งในด้านสินเชื่อคงค้างถึงแม้ว่าจะมีนโยบายการเติบโตของสินเชื่ออย่างระมัดระวังในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาสแรกของปี 2566 ยอดสินเชื่อคงค้างของบริษัทขยายตัวอย่างต่อเนื่องมาอยู่ที่ระดับ 5.47 หมื่นล้านบาท คิดเป็นการเติบโต 8% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว หรือคิดเป็นการเติบโต 2% จากสิ้นปีก่อนหน้า
ทริสเรทติ้งประมาณการว่าบริษัทจะมียอดสินเชื่อใหม่เติบโตในอัตราเฉลี่ย 5% ต่อปีในช่วงปี 2566-2567 โดยการเติบโตนั้นมีปัจจัยสนับสนุนมาจากกลยุทธ์ทางด้านการตลาดและความต้องการรถบรรทุกที่เติบโตสอดคล้องไปกับเศรษฐกิจที่ค่อย ๆ ฟื้นตัว ในปีนี้บริษัทได้เริ่มขยายธุรกิจไปสู่ธุรกิจสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกันให้กับฐานลูกค้าเดิมของบริษัท ซึ่งธุรกิจใหม่ดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนการเติบโตของยอดสินเชื่อและลดแรงกดดันด้านอัตราดอกเบี้ยรับจากสถานการณ์การแข่งขันในอุตสาหกรรมสินเชื่อเช่าซื้อที่ยังคงมีความรุนแรงได้
ในแง่ของคุณภาพสินทรัพย์นั้น นโยบายการเติบโตของสินเชื่ออย่างระมัดระวังของบริษัทรวมทั้งการจัดเก็บหนี้อย่างมีประสิทธิภาพในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาส่งผลให้คุณภาพสินทรัพย์ปรับตัวดีขึ้น โดยอัตราส่วนลูกหนี้ที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตหรือลูกหนี้ชั้นที่ 3 (NPL) ต่อสินเชื่อรวม (NPL Ratio) ปรับลดลงมาอยู่ที่ระดับ 2.6% ณ สิ้นไตรมาสแรกของปี 2566 จาก 3.8% ณ สิ้นปี 2564 ในมุมองของทริสเรทติ้ง NPL อาจจะมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นจากการที่บริษัทขยายสินเชื่อในเชิงรุกภายใต้สภาพแวดล้อมที่มีการแข่งขันอย่างรุนแรงและเศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอน อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นของ NPL นั้นยังอยู่ในวิสัยที่บริหารจัดการได้
ฐานทุนของบริษัทซึ่งประเมินโดยอัตราส่วนเงินทุนที่ปรับความเสี่ยง (RAC) อยู่ในระดับ ?เข้มแข็ง? โดยอยู่ที่ระดับ 23% ณ สิ้นไตรมาสแรกของปี 2566 ความสามารถในการสร้างรายได้ซึ่งประเมินด้วยอัตราส่วนกำไรก่อนภาษีเงินได้ต่อสินทรัพย์เสี่ยงถัวเฉลี่ย (EBT/ARWA) ยังคงอยู่ที่ระดับ ?ปานกลาง? ที่ 4% (เมื่อปรับให้เป็นอัตราส่วนเต็มปี) ในไตรมาสแรกของปี 2566 ทั้งฐานทุนและความสามารถในการทำกำไรยังคงเป็นปัจจัยที่สนับสนุนอันดับเครดิตในปัจจุบัน ทริสเรทติ้งคาดการณ์ว่าอัตราส่วน RAC และ EBT/ARWA ของบริษัทจะยังคงอยู่ในระดับที่แข็งแรงในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า
บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1.8 พันล้านบาทในปี 2565 หรือเพิ่มขึ้น 2.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 450 ล้านบาทในไตรมาสแรกของปี 2566 ซึ่งเป็นระดับเดียวกันกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นผลจากการที่บริษัทสามารถรักษาส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยไว้ได้ ซึ่งช่วยบรรเทาค่าใช้จ่ายผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นที่เพิ่มขึ้นและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เพิ่มสูงขึ้น
ทริสเรทติ้งประเมินว่าบริษัทจะมีสถานะเงินทุนและสภาพคล่องอยู่ในระดับที่ ?เพียงพอ? เนื่องจากบริษัทสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ทั้งจากตลาดตราสารหนี้และตลาดตราสารทุน รวมทั้งยังมีวงเงินสินเชื่อจากสถาบันการเงินทึ่ค่อนข้างกระจายตัวซึ่งช่วยสนับสนุนการขยายธุรกิจของบริษัทได้
แนวโน้มอันดับเครดิต
แนวโน้มอันดับเครดิต ?Stable? หรือ ?คงที่? สะท้อนถึงการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะสามารถรักษาสถานะทางการตลาดตลอดจนฐานทุน และความสามารถในการสร้างผลกำไรในระดับปัจจุบันเอาไว้ได้ นอกจากนี้ แนวโน้มอันดับเครดิตยังสะท้อนถึงการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะสามารถบริหารคุณภาพสินทรัพย์ให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอน
?
ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง
อันดับเครดิตเฉพาะของบริษัทอาจได้รับการปรับเพิ่มขึ้นหากฐานทุนมีความแข็งแกร่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญโดยอัตราส่วน RAC ทรงตัวอยู่ในระดับเกินกว่า 25% อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่อันดับเครดิตองค์กรอาจได้รับการปรับเพิ่มขึ้นหากอันดับเครดิตของบริษัททุนธนชาตได้รับการปรับเพิ่มขึ้น ในทางตรงกันข้าม อันดับเครดิตเฉพาะของบริษัทอาจถูกปรับลดลงหากสถานะเงินทุนของบริษัทอ่อนแอลงอย่างมีนัยสำคัญจนกระทั่งอัตราส่วน RAC ลดลงต่ำกว่าระดับ 12% และ/หรือคุณภาพสินเชื่อถดถอยลงอย่างมีนัยสำคัญจนทำให้ EBT/ARWA อยู่ที่ระดับต่ำกว่า 1.5% นอกจากนี้ การปรับลดอันดับเครดิตของบริษัททุนธนชาตอาจส่งผลกระทบในเชิงลบต่ออันดับเครดิตของบริษัทได้ด้วยเช่นกัน
เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง
- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตกลุ่มธุรกิจ, 7 กันยายน 2565
- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้, 15 มิถุนายน 2564
- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร, 17 กุมภาพันธ์ 2563
บริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) (THANI)
อันดับเครดิตองค์กร: A-
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
THANI237A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 486.3 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 A-
THANI23NA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,439 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 A-
THANI247A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 593.7 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 A-
THANI24DA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 A-
THANI251B: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 A-
THANI254A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 A-
THANI255A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 593 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 A-
THANI25DA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 A-
THANI25DB: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 A-
THANI262A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2569 A-
THANI262B: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2569 A-
THANI264A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 700 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2569 A-
THANI265A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2569 A-
THANI268A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2569 A-
THANI272A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2570 A-
THANI274A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,300 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2570 A-
หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ในวงเงินไม่เกิน 1,000 ล้านบาท และหุ้นกู้สำรองเพื่อการเสนอขาย
เพิ่มเติม (Over-allotment) ในวงเงินไม่เกิน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนภายใน 3 ปี 6 เดือน A-
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable