บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท แอ๊ดวานซ์ อะโกร จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “BBB” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” อันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงฐานะของบริษัทในการเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการผลิตเยื่อกระดาษชนิดเยื่อใยสั้นและกระดาษพิมพ์เขียนของไทย รวมถึงการมีโรงงานที่มีประสิทธิภาพและมีการผลิตที่ครบวงจร นอกจากนี้ อันดับเครดิตดังกล่าวยังคำนึงถึงความต้องการเยื่อและกระดาษที่ค่อนข้างสม่ำเสมอทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย อย่างไรก็ตาม ปัจจัยบวกดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากการที่บริษัทอยู่ในอุตสาหกรรมเยื่อและกระดาษที่มีราคาค่อนข้างผันผวน รวมทั้งผลกระทบในเชิงลบจากค่าเงินบาทที่แข็งขึ้น ต้นทุนพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานและการปรับโครงสร้างธุรกิจของบริษัทหลังจากที่ผู้บริหารของบริษัทเข้ามาซื้อกิจการ
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหวังว่าบริษัทจะสามารถรักษาผลการดำเนินงานในระยะปานกลางเอาไว้ได้ที่ระดับปัจจุบันแม้ว่าต้นทุนการผลิตจะปรับเพิ่มขึ้นและค่าเงินบาทอาจแข็งค่าต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังคาดว่าอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทจะยังคงอยู่ที่ระดับเดิมแม้ว่าบริษัทจะมีแผนการลงทุนในโรงงานผลิตเยื่อกระดาษโรงที่ 3 แนวโน้มอันดับเครดิตยังสะท้อนถึงความตั้งใจของผู้บริหารที่จะยังคงเปิดเผยข้อมูลทางการเงินและการดำเนินงานของบริษัทตามปกติต่อไปแม้ว่าบริษัทจะไม่ได้อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ และสะท้อนถึงความตั้งใจของบริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อื่นด้วย อันดับเครดิตหรือแนวโน้มอันดับเครดิตอาจมีการเปลี่ยนแปลงหลังการปรับโครงสร้างธุรกิจ หรือหากผลการดำเนินงานและฐานะทางการเงินของบริษัทมีการเปลี่ยนแปลงไปจากระดับปัจจุบันอย่างมีนัยสำคัญ
ทริสเรทติ้งรายงานว่า อันดับเครดิตองค์กรของบริษัท แอ๊ดวานซ์ อะโกร ได้รับการประกาศเตือน “เครดิตพินิจ” แนวโน้ม “Developing” หรือ “ยังไม่ชัดเจน” เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2550 หลังจากที่นายโยธิน ดำเนินชาญวณิชย์ ซึ่งเป็นผู้บริหารของบริษัทได้แสดงเจตจำนงที่จะซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัทจำนวน 99.9997% และจะถอนจากการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2551 นายโยธินสามารถรวบรวมหุ้นของบริษัทได้ทั้งหมด 78.52% และบริษัทได้ถอนการจดทะเบียนออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2551 หลังการถอนตัวออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัทมีแผนจะปรับโครงสร้างธุรกิจโดยการขายโรงไฟฟ้าจำนวน 3 โรงให้แก่บริษัทที่เกี่ยวข้องคือ บริษัท เนชั่นแนล พาวเวอร์ ซัพพลาย จำกัด โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการขายโรงไฟฟ้าไปใช้ในการก่อสร้างโรงงานผลิตเยื่อกระดาษโรงที่ 3 ซึ่งจะมีกำลังการผลิตประมาณ 210,000 ตันต่อปี และบางส่วนจะนำไปใช้ชำระหนี้ นอกจากนี้ ผู้บริหารของบริษัทยังมีแผนจะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อื่นในภูมิภาคนี้ภายในปี 2552 โดยยังคงยืนยันที่จะให้มีการเปิดเผยข้อมูลการดำเนินงานและข้อมูลทางการเงินตามปกติแม้ว่าบริษัทจะถอนตัวออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้วก็ตาม
ทริสเรทติ้งกล่าวว่า บริษัทแอ๊ดวานซ์ อะโกร เป็นผู้ผลิตเยื่อกระดาษและกระดาษพิมพ์เขียนรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยบริษัทและบริษัทในเครือเป็นเจ้าของโรงงานผลิตเยื่อกระดาษจำนวน 2 โรงซึ่งมีกำลังการผลิตรวมประมาณ 580,000 ตันต่อปี และมีเครื่องจักรผลิตกระดาษจำนวน 3 เครื่องซึ่งมีกำลังการผลิตประมาณ 558,000 ตันต่อปี เยื่อกระดาษที่ผลิตได้นั้นประมาณ 70% บริษัทนำมาใช้เพื่อการผลิตกระดาษ และที่เหลือส่งจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ บริษัทเป็นผู้ส่งออกเยื่อใยสั้นรายใหญ่ที่สุดในประเทศคิดเป็นจำนวน 115,715 ตันในปี 2549 และ 143,808 ตันในปี 2550 บริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดสำหรับกระดาษพิมพ์เขียนภายในประเทศในปี 2550 ประมาณ 21% ลดลงจากประมาณ 23% ในปี 2549 บริษัทมีสัดส่วนรายได้ที่มาจากธุรกิจกระดาษประมาณ 77% ของรายได้ทั้งหมด ในขณะที่ธุรกิจเยื่อกระดาษมีสัดส่วนรายได้ประมาณ 16% ของรายได้ทั้งหมด โดยรายได้ส่วนที่เหลือมาจากการขายไฟฟ้าและอื่นๆ ปริมาณการขายเยื่อและกระดาษของบริษัทในปี 2550 ปรับเพิ่มขึ้น 9.96% และ 8.65% ตามลำดับจากปีก่อน แม้ว่าราคาเยื่อและกระดาษในรูปของเงินดอลลาร์สหรัฐจะปรับเพิ่มมากกว่า 7% ในปี 2550 แต่รายได้จากการขายเยื่อและกระดาษในรูปของเงินบาทกลับปรับเพิ่มในอัตราเดียวกับปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้เนื่องจากค่าเงินบาทที่แข็งขึ้นเกือบ 9% เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ
ณ เดือนธันวาคม 2550 บริษัทมีหนี้อยู่ 11,319 ล้านบาท ลดลง 15% จากปีก่อนเนื่องจากบริษัทมีการไถ่ถอนหุ้นกู้ซึ่งครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2550 จำนวน 38.34 ล้านดอลลาร์สหรัฐและหุ้นกู้ซึ่งครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2555 อีกจำนวน 77.21 ล้านดอลลาร์ อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัท ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2550 ปรับลดลงจาก 48.20% ในปี 2549 มาอยู่ที่ 43.56% อย่างไรก็ตาม คาดว่าอัตราส่วนดังกล่าวในระยะปานกลางจะยังคงอยู่ที่ระดับ 40% เนื่องจากบริษัทมีแผนจะก่อสร้างโรงงานผลิตเยื่อกระดาษโรงที่ 3 โดยมูลค่าการลงทุนอยู่ที่ประมาณ 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งบริษัทคาดว่าจะใช้เงินลงทุนในโครงการดังกล่าวประมาณ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากการกู้ยืม และส่วนที่เหลือจะใช้เงินสดจากการดำเนินงานและเงินจากการขายโรงไฟฟ้า -- จบ
บริษัท แอ๊ดวานซ์ อะโกร จำกัด (มหาชน) (AA)
อันดับเครดิตองค์กร: คงเดิมที่ระดับ BBB
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
----------------------------------------------
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2551 ห้ามมิให้บุคคลใดใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงมิได้รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้น ผลที่ได้รับ หรือการกระทำใดๆ โดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหวังว่าบริษัทจะสามารถรักษาผลการดำเนินงานในระยะปานกลางเอาไว้ได้ที่ระดับปัจจุบันแม้ว่าต้นทุนการผลิตจะปรับเพิ่มขึ้นและค่าเงินบาทอาจแข็งค่าต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังคาดว่าอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทจะยังคงอยู่ที่ระดับเดิมแม้ว่าบริษัทจะมีแผนการลงทุนในโรงงานผลิตเยื่อกระดาษโรงที่ 3 แนวโน้มอันดับเครดิตยังสะท้อนถึงความตั้งใจของผู้บริหารที่จะยังคงเปิดเผยข้อมูลทางการเงินและการดำเนินงานของบริษัทตามปกติต่อไปแม้ว่าบริษัทจะไม่ได้อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ และสะท้อนถึงความตั้งใจของบริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อื่นด้วย อันดับเครดิตหรือแนวโน้มอันดับเครดิตอาจมีการเปลี่ยนแปลงหลังการปรับโครงสร้างธุรกิจ หรือหากผลการดำเนินงานและฐานะทางการเงินของบริษัทมีการเปลี่ยนแปลงไปจากระดับปัจจุบันอย่างมีนัยสำคัญ
ทริสเรทติ้งรายงานว่า อันดับเครดิตองค์กรของบริษัท แอ๊ดวานซ์ อะโกร ได้รับการประกาศเตือน “เครดิตพินิจ” แนวโน้ม “Developing” หรือ “ยังไม่ชัดเจน” เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2550 หลังจากที่นายโยธิน ดำเนินชาญวณิชย์ ซึ่งเป็นผู้บริหารของบริษัทได้แสดงเจตจำนงที่จะซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัทจำนวน 99.9997% และจะถอนจากการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2551 นายโยธินสามารถรวบรวมหุ้นของบริษัทได้ทั้งหมด 78.52% และบริษัทได้ถอนการจดทะเบียนออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2551 หลังการถอนตัวออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัทมีแผนจะปรับโครงสร้างธุรกิจโดยการขายโรงไฟฟ้าจำนวน 3 โรงให้แก่บริษัทที่เกี่ยวข้องคือ บริษัท เนชั่นแนล พาวเวอร์ ซัพพลาย จำกัด โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการขายโรงไฟฟ้าไปใช้ในการก่อสร้างโรงงานผลิตเยื่อกระดาษโรงที่ 3 ซึ่งจะมีกำลังการผลิตประมาณ 210,000 ตันต่อปี และบางส่วนจะนำไปใช้ชำระหนี้ นอกจากนี้ ผู้บริหารของบริษัทยังมีแผนจะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อื่นในภูมิภาคนี้ภายในปี 2552 โดยยังคงยืนยันที่จะให้มีการเปิดเผยข้อมูลการดำเนินงานและข้อมูลทางการเงินตามปกติแม้ว่าบริษัทจะถอนตัวออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้วก็ตาม
ทริสเรทติ้งกล่าวว่า บริษัทแอ๊ดวานซ์ อะโกร เป็นผู้ผลิตเยื่อกระดาษและกระดาษพิมพ์เขียนรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยบริษัทและบริษัทในเครือเป็นเจ้าของโรงงานผลิตเยื่อกระดาษจำนวน 2 โรงซึ่งมีกำลังการผลิตรวมประมาณ 580,000 ตันต่อปี และมีเครื่องจักรผลิตกระดาษจำนวน 3 เครื่องซึ่งมีกำลังการผลิตประมาณ 558,000 ตันต่อปี เยื่อกระดาษที่ผลิตได้นั้นประมาณ 70% บริษัทนำมาใช้เพื่อการผลิตกระดาษ และที่เหลือส่งจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ บริษัทเป็นผู้ส่งออกเยื่อใยสั้นรายใหญ่ที่สุดในประเทศคิดเป็นจำนวน 115,715 ตันในปี 2549 และ 143,808 ตันในปี 2550 บริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดสำหรับกระดาษพิมพ์เขียนภายในประเทศในปี 2550 ประมาณ 21% ลดลงจากประมาณ 23% ในปี 2549 บริษัทมีสัดส่วนรายได้ที่มาจากธุรกิจกระดาษประมาณ 77% ของรายได้ทั้งหมด ในขณะที่ธุรกิจเยื่อกระดาษมีสัดส่วนรายได้ประมาณ 16% ของรายได้ทั้งหมด โดยรายได้ส่วนที่เหลือมาจากการขายไฟฟ้าและอื่นๆ ปริมาณการขายเยื่อและกระดาษของบริษัทในปี 2550 ปรับเพิ่มขึ้น 9.96% และ 8.65% ตามลำดับจากปีก่อน แม้ว่าราคาเยื่อและกระดาษในรูปของเงินดอลลาร์สหรัฐจะปรับเพิ่มมากกว่า 7% ในปี 2550 แต่รายได้จากการขายเยื่อและกระดาษในรูปของเงินบาทกลับปรับเพิ่มในอัตราเดียวกับปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้เนื่องจากค่าเงินบาทที่แข็งขึ้นเกือบ 9% เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ
ณ เดือนธันวาคม 2550 บริษัทมีหนี้อยู่ 11,319 ล้านบาท ลดลง 15% จากปีก่อนเนื่องจากบริษัทมีการไถ่ถอนหุ้นกู้ซึ่งครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2550 จำนวน 38.34 ล้านดอลลาร์สหรัฐและหุ้นกู้ซึ่งครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2555 อีกจำนวน 77.21 ล้านดอลลาร์ อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัท ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2550 ปรับลดลงจาก 48.20% ในปี 2549 มาอยู่ที่ 43.56% อย่างไรก็ตาม คาดว่าอัตราส่วนดังกล่าวในระยะปานกลางจะยังคงอยู่ที่ระดับ 40% เนื่องจากบริษัทมีแผนจะก่อสร้างโรงงานผลิตเยื่อกระดาษโรงที่ 3 โดยมูลค่าการลงทุนอยู่ที่ประมาณ 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งบริษัทคาดว่าจะใช้เงินลงทุนในโครงการดังกล่าวประมาณ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากการกู้ยืม และส่วนที่เหลือจะใช้เงินสดจากการดำเนินงานและเงินจากการขายโรงไฟฟ้า -- จบ
บริษัท แอ๊ดวานซ์ อะโกร จำกัด (มหาชน) (AA)
อันดับเครดิตองค์กร: คงเดิมที่ระดับ BBB
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
----------------------------------------------
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2551 ห้ามมิให้บุคคลใดใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงมิได้รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้น ผลที่ได้รับ หรือการกระทำใดๆ โดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว