บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท คิงเพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด ที่ระดับ “BBB-” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะของบริษัทในการเป็นผู้ประกอบธุรกิจจำหน่ายสินค้าปลอดอากรรายใหญ่ในประเทศไทย ระดับการแข่งขันทางธุรกิจที่ไม่รุนแรง และคณะผู้บริหารที่มีความสามารถและประสบการณ์ อันดับเครดิตยังพิจารณาถึงแนวโน้มที่ดีในระยะยาวของธุรกิจการท่องเที่ยวของไทย อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งดังกล่าวถูกลดทอนลงบางส่วนจากการที่บริษัทมีสัดส่วนเงินกู้ในระดับสูงซึ่งรวมถึงการค้ำประกันหนี้ให้แก่บริษัทที่เกี่ยวข้องต่างๆ ตลอดจนปัญหาข้อพิพาทกับ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ที่ยังไม่มีข้อยุติ ทั้งนี้ อันดับเครดิตอยู่บนสมมติฐานที่บริษัทจะไม่มีการสร้างภาระหนี้เพิ่มไม่ว่าจะโดยการกู้ยืมหรือให้การสนับสนุนทางการเงินแก่บริษัทที่เกี่ยวข้องซึ่งจะมีผลบั่นทอนฐานะทางการเงินของบริษัทมากขึ้น
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” ของบริษัทคิงเพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี สะท้อนถึงสถานะสภาพคล่องที่ปรับตัวดีขึ้น กระแสเงินสดที่เพียงพอ และการที่ศาลให้ความคุ้มครองให้บริษัทสามารถดำเนินธุรกิจได้ในช่วงการพิจารณาคดี อันดับเครดิตของบริษัทจะได้รับการทบทวนหากบริษัทสามารถมีข้อตกลงเกี่ยวกับกรณีพิพาทที่มีกับ ทอท. และสามารถดำรงฐานะทางการเงินที่ดีไว้ได้ต่อไป
ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัทคิงเพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี เป็นสมาชิกของกลุ่มคิงเพาเวอร์ (King Power Group) ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจจำหน่ายสินค้าปลอดอากรและภาษีรายใหญ่ในประเทศไทย ร้านค้าของกลุ่มคิงเพาเวอร์ตั้งอยู่ในย่านธุรกิจหลักของกรุงเทพฯ และในท่าอากาศยานนานาชาติ 4 แห่งทั่วประเทศ โดยบริษัทได้รับสัมปทานจาก ทอท. เป็นเวลา 10 ปี ระหว่างปี 2549-2559 เพื่อดำเนินกิจการร้านจำหน่ายสินค้าปลอดอากรที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและท่าอากาศยานนานาชาติอื่นๆ อีก 3 แห่ง สินค้าหลักในร้านค้าของบริษัทประกอบด้วย สุรา บุหรี่ น้ำหอม นาฬิกา เครื่องสำอาง เครื่องหนัง เสื้อผ้าและเครื่องประดับ อาหาร และช็อกโกเลต ฯลฯ
ทริสเรทติ้งกล่าวว่า ธุรกิจจำหน่ายสินค้าปลอดอากรเป็นธุรกิจที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจการท่องเที่ยว โดยคาดว่าแนวโน้มของธุรกิจการท่องเที่ยวในประเทศในระยะยาวจะดียิ่งขึ้นจากการมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลากหลายและเป็นธุรกิจที่ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างมากจากภาครัฐเนื่องจากเป็นแหล่งสร้างรายได้จากเงินตราต่างประเทศ ทว่าเหตุการณ์ที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ล่วงหน้า เช่น การระบาดของโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (ซาร์ส) ภัยพิบัตจากคลื่นสึนามิ และความไม่สงบทางการเมือง รวมถึงราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นซึ่งทำให้ต้นทุนในการเดินทางเพิ่มสูงขึ้นยังส่งผลให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวซบเซาลงในระยะสั้น
ทริสเรทติ้งยังกล่าวด้วยว่าสภาพคล่องและความยืดหยุ่นทางการเงินของบริษัทคิงเพาเวอร์ ดิวตี้ฟรีที่ได้รับจากสถาบันการเงินและผู้ลงทุนลดลงอย่างมีนัยสำคัญนับตั้งแต่คณะกรรมการของ ทอท. มีมติให้สัญญาสัมปทานของบริษัทเป็นโมฆะและแจ้งให้บริษัทระงับการดำเนินธุรกิจในท่าอากาศยานทั้ง 4 แห่ง ในวันที่ 4 มิถุนายน 2550 บริษัทได้ยื่นฟ้องต่อศาลแพ่งเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายจำนวน 4.8 หมื่นล้านบาทจาก ทอท. และในวันที่ 31 มกราคม 2551 ศาลแพ่งได้มีคำสั่งคุ้มครองบริษัทให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้จนกว่าคดีจะตัดสินชี้ขาด ในระหว่างนี้บริษัทสามารถดำเนินธุรกิจได้ตามปกติและสร้างกระแสเงินสดที่เพียงพอ โดยทริสเรทติ้งจะติดตามความคืบหน้าของคดีอย่างต่อเนื่อง และเมื่อผลของข้อพิพาทดังกล่าวมีข้อสรุปก็จะมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่ออันดับเครดิตของบริษัท
ฐานะทางการเงินของบริษัทปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญโดยอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนลดลงสู่ระดับ 49% ณ สิ้นปี 2550 จากระดับ 73% ในปี 2549 เนื่องจากหนี้สินรวมของบริษัทลดลงไปมากหลังจากที่จ่ายคืนหนี้เงินกู้จากธนาคารและตั๋วแลกเงินเป็นจำนวนมาก ในปี 2550 อัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่ายของบริษัทอยู่ที่ประมาณ 5 เท่า และเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจาก 9.6% ในปี 2549 เป็น 36.6% ในปี 2550 เนื่องจากผลการดำเนินงานที่น่าพอใจจากการที่บริษัทเปิดให้บริการ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเต็มปีเป็นครั้งแรก
ทริสเรทติ้งกล่าวว่า ในการให้อันดับเครดิตของบริษัทคิงเพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี ทริสเรทติ้งยังพิจารณาถึงระดับของการดำเนินการทางการเงินระหว่างกันของบริษัทและบริษัทในกลุ่มซึ่งรวมถึงการให้กู้ยืมและการค้ำประกันระหว่างบริษัทด้วย ณ เดือนมีนาคม 2551 บริษัทมีการให้เงินกู้แก่บริษัทที่เกี่ยวข้องเพิ่มขึ้นเป็น 2,179 ล้านบาท จาก 1,647 ล้านบาทในปี 2550 นอกจากนี้ในปี 2550 บริษัทและผู้ถือหุ้นรายใหญ่คือ นายวิชัย รักศรีอักษร ยังได้ค้ำประกันเงินกู้ให้แก่บริษัทร่วมแห่งหนึ่งซึ่งเป็นผู้บริหารพื้นที่การขายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รวมทั้งยังให้การค้ำประกันเงินกู้แก่บริษัทที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ซึ่งลงทุนในอาคารจำหน่ายสินค้าปลอดอากรในย่านธุรกิจกลางเมืองและโรงแรมระดับ 5 ดาว ทั้งนี้
ทริสเรทติ้งจะติดตามตรวจสอบการให้ความช่วยเหลือทางการเงินของบริษัทคิงเพาเวอร์ ดิวตี้ฟรีแก่บริษัทที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดเนื่องจากการดำเนินการดังกล่าวอาจมีผลกระทบต่ออันดับเครดิตของบริษัทได้ -- จบ
บริษัท คิงเพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด (KPD)
อันดับเครดิตองค์กร: คงเดิมที่ BBB-
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
-------------------------------------------------------------------------
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2551 ห้ามมิให้บุคคลใดใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงมิได้รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้น ผลที่ได้รับ หรือการกระทำใดๆ โดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” ของบริษัทคิงเพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี สะท้อนถึงสถานะสภาพคล่องที่ปรับตัวดีขึ้น กระแสเงินสดที่เพียงพอ และการที่ศาลให้ความคุ้มครองให้บริษัทสามารถดำเนินธุรกิจได้ในช่วงการพิจารณาคดี อันดับเครดิตของบริษัทจะได้รับการทบทวนหากบริษัทสามารถมีข้อตกลงเกี่ยวกับกรณีพิพาทที่มีกับ ทอท. และสามารถดำรงฐานะทางการเงินที่ดีไว้ได้ต่อไป
ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัทคิงเพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี เป็นสมาชิกของกลุ่มคิงเพาเวอร์ (King Power Group) ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจจำหน่ายสินค้าปลอดอากรและภาษีรายใหญ่ในประเทศไทย ร้านค้าของกลุ่มคิงเพาเวอร์ตั้งอยู่ในย่านธุรกิจหลักของกรุงเทพฯ และในท่าอากาศยานนานาชาติ 4 แห่งทั่วประเทศ โดยบริษัทได้รับสัมปทานจาก ทอท. เป็นเวลา 10 ปี ระหว่างปี 2549-2559 เพื่อดำเนินกิจการร้านจำหน่ายสินค้าปลอดอากรที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและท่าอากาศยานนานาชาติอื่นๆ อีก 3 แห่ง สินค้าหลักในร้านค้าของบริษัทประกอบด้วย สุรา บุหรี่ น้ำหอม นาฬิกา เครื่องสำอาง เครื่องหนัง เสื้อผ้าและเครื่องประดับ อาหาร และช็อกโกเลต ฯลฯ
ทริสเรทติ้งกล่าวว่า ธุรกิจจำหน่ายสินค้าปลอดอากรเป็นธุรกิจที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจการท่องเที่ยว โดยคาดว่าแนวโน้มของธุรกิจการท่องเที่ยวในประเทศในระยะยาวจะดียิ่งขึ้นจากการมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลากหลายและเป็นธุรกิจที่ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างมากจากภาครัฐเนื่องจากเป็นแหล่งสร้างรายได้จากเงินตราต่างประเทศ ทว่าเหตุการณ์ที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ล่วงหน้า เช่น การระบาดของโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (ซาร์ส) ภัยพิบัตจากคลื่นสึนามิ และความไม่สงบทางการเมือง รวมถึงราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นซึ่งทำให้ต้นทุนในการเดินทางเพิ่มสูงขึ้นยังส่งผลให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวซบเซาลงในระยะสั้น
ทริสเรทติ้งยังกล่าวด้วยว่าสภาพคล่องและความยืดหยุ่นทางการเงินของบริษัทคิงเพาเวอร์ ดิวตี้ฟรีที่ได้รับจากสถาบันการเงินและผู้ลงทุนลดลงอย่างมีนัยสำคัญนับตั้งแต่คณะกรรมการของ ทอท. มีมติให้สัญญาสัมปทานของบริษัทเป็นโมฆะและแจ้งให้บริษัทระงับการดำเนินธุรกิจในท่าอากาศยานทั้ง 4 แห่ง ในวันที่ 4 มิถุนายน 2550 บริษัทได้ยื่นฟ้องต่อศาลแพ่งเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายจำนวน 4.8 หมื่นล้านบาทจาก ทอท. และในวันที่ 31 มกราคม 2551 ศาลแพ่งได้มีคำสั่งคุ้มครองบริษัทให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้จนกว่าคดีจะตัดสินชี้ขาด ในระหว่างนี้บริษัทสามารถดำเนินธุรกิจได้ตามปกติและสร้างกระแสเงินสดที่เพียงพอ โดยทริสเรทติ้งจะติดตามความคืบหน้าของคดีอย่างต่อเนื่อง และเมื่อผลของข้อพิพาทดังกล่าวมีข้อสรุปก็จะมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่ออันดับเครดิตของบริษัท
ฐานะทางการเงินของบริษัทปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญโดยอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนลดลงสู่ระดับ 49% ณ สิ้นปี 2550 จากระดับ 73% ในปี 2549 เนื่องจากหนี้สินรวมของบริษัทลดลงไปมากหลังจากที่จ่ายคืนหนี้เงินกู้จากธนาคารและตั๋วแลกเงินเป็นจำนวนมาก ในปี 2550 อัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่ายของบริษัทอยู่ที่ประมาณ 5 เท่า และเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจาก 9.6% ในปี 2549 เป็น 36.6% ในปี 2550 เนื่องจากผลการดำเนินงานที่น่าพอใจจากการที่บริษัทเปิดให้บริการ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเต็มปีเป็นครั้งแรก
ทริสเรทติ้งกล่าวว่า ในการให้อันดับเครดิตของบริษัทคิงเพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี ทริสเรทติ้งยังพิจารณาถึงระดับของการดำเนินการทางการเงินระหว่างกันของบริษัทและบริษัทในกลุ่มซึ่งรวมถึงการให้กู้ยืมและการค้ำประกันระหว่างบริษัทด้วย ณ เดือนมีนาคม 2551 บริษัทมีการให้เงินกู้แก่บริษัทที่เกี่ยวข้องเพิ่มขึ้นเป็น 2,179 ล้านบาท จาก 1,647 ล้านบาทในปี 2550 นอกจากนี้ในปี 2550 บริษัทและผู้ถือหุ้นรายใหญ่คือ นายวิชัย รักศรีอักษร ยังได้ค้ำประกันเงินกู้ให้แก่บริษัทร่วมแห่งหนึ่งซึ่งเป็นผู้บริหารพื้นที่การขายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รวมทั้งยังให้การค้ำประกันเงินกู้แก่บริษัทที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ซึ่งลงทุนในอาคารจำหน่ายสินค้าปลอดอากรในย่านธุรกิจกลางเมืองและโรงแรมระดับ 5 ดาว ทั้งนี้
ทริสเรทติ้งจะติดตามตรวจสอบการให้ความช่วยเหลือทางการเงินของบริษัทคิงเพาเวอร์ ดิวตี้ฟรีแก่บริษัทที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดเนื่องจากการดำเนินการดังกล่าวอาจมีผลกระทบต่ออันดับเครดิตของบริษัทได้ -- จบ
บริษัท คิงเพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด (KPD)
อันดับเครดิตองค์กร: คงเดิมที่ BBB-
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable
-------------------------------------------------------------------------
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2551 ห้ามมิให้บุคคลใดใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงมิได้รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้น ผลที่ได้รับ หรือการกระทำใดๆ โดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว