บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศ “เครดิตพินิจ” แนวโน้ม “Negative” หรือ “ลบ” สำหรับเครดิตองค์กรของ บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) โดยยังคงอันดับเครดิตองค์กรของบริษัทไว้ที่ระดับ “BBB” การประกาศ “เครดิตพินิจ” ในครั้งนี้สืบเนื่องจากกรณีที่ศาลอาญาแต่งตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีตามคำสั่งศาลอาญาเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2550 ทั้งนี้ แนวโน้ม “ลบ” สะท้อนความกังวลว่าการบังคับคดีตามคำสั่งศาลจะส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องและการดำเนินธุรกิจของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญแม้ว่าธุรกิจหลักของบริษัทยังคงสร้างกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งก็ตาม
ทริสเรทติ้งรายงานว่า การฟ้องร้องเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2549 และเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2550 ศาลอาญาได้พิพากษาว่าบริษัททีพีไอ โพลีนได้กระทำผิดโดยละเมิด พ.ร.บ. หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 โดยการเผยแพร่ข้อมูลนอกเหนือจากข้อมูลที่ได้แจ้งไว้กับตลาดหลักทรัพย์ และพิพากษาปรับบริษัทเป็นจำนวนเงิน 6,900 ล้านบาท ต่อมาเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2551 บริษัทได้ยื่นอุทธรณ์คำตัดสินของศาลอาญาต่อศาลอุทธรณ์ โดยเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2551 บริษัทได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาขอระงับการบังคับคดีไว้ก่อน แต่ศาลอาญามีคำสั่งยกคำร้อง ต่อมาเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2551 บริษัทจึงได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งยกคำร้องของศาลอาญาต่อศาลอุทธรณ์ เนื่องจากขณะนี้คดีต่างๆ เหล่านี้อยู่ภายใต้การพิจารณาของศาลอุทธรณ์ บริษัทจึงมีความเห็นว่ายังไม่ต้องชำระค่าปรับตามประมวลกฏหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 245 และเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2551 ศาลอาญาได้มีคำสั่งแต่งตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดี ต่อมาเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2551 บริษัทได้ยื่นคำร้องคัดค้านการแต่งตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีต่อศาลอาญา ซึ่งศาลอาญาได้มีคำสั่งรับคำร้องคัดค้านดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม บริษัททีพีไอ โพลีนยึดหลักความระมัดระวังโดยการตั้งสำรองหนี้สินจากค่าปรับเป็นจำนวนเงิน 6,900 ล้านบาทไว้ในงบการเงิน ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2551 โดยบริษัทยังคงดำเนินการอุทธรณ์และโต้แย้งตามกระบวนการทางศาลต่อไป ทั้งนี้ ถึงแม้สำรองเงินค่าปรับจะเป็นรายการที่ไม่กระทบต่อตัวเงิน แต่ก็ส่งผลให้ส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทลดลงจาก 57,837 ล้านบาท (ก่อนการตั้งสำรอง) เหลือ 50,937 ล้านบาท (หลังการตั้งสำรอง) ซึ่งทำให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัทลดลง
ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งจะปลดเครดิตพินิจออกเมื่อการประเมินผลกระทบที่จะมีต่อฐานะทางการเงินของบริษัททีพีไอ โพลีน อันเกิดจากคดีเหล่านี้เป็นที่ชัดเจนแล้ว — จบ
บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) (TPIPL)
แนวโน้มเครดิตพินิจ: Negative
อันดับเครดิตองค์กร: BBB
-------------------------------------------------------------------------
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2551 ห้ามไม่มิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงมิได้รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้น ผลที่ได้รับ หรือการกระทำใดๆ โดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว
ทริสเรทติ้งรายงานว่า การฟ้องร้องเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2549 และเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2550 ศาลอาญาได้พิพากษาว่าบริษัททีพีไอ โพลีนได้กระทำผิดโดยละเมิด พ.ร.บ. หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 โดยการเผยแพร่ข้อมูลนอกเหนือจากข้อมูลที่ได้แจ้งไว้กับตลาดหลักทรัพย์ และพิพากษาปรับบริษัทเป็นจำนวนเงิน 6,900 ล้านบาท ต่อมาเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2551 บริษัทได้ยื่นอุทธรณ์คำตัดสินของศาลอาญาต่อศาลอุทธรณ์ โดยเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2551 บริษัทได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาขอระงับการบังคับคดีไว้ก่อน แต่ศาลอาญามีคำสั่งยกคำร้อง ต่อมาเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2551 บริษัทจึงได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งยกคำร้องของศาลอาญาต่อศาลอุทธรณ์ เนื่องจากขณะนี้คดีต่างๆ เหล่านี้อยู่ภายใต้การพิจารณาของศาลอุทธรณ์ บริษัทจึงมีความเห็นว่ายังไม่ต้องชำระค่าปรับตามประมวลกฏหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 245 และเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2551 ศาลอาญาได้มีคำสั่งแต่งตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดี ต่อมาเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2551 บริษัทได้ยื่นคำร้องคัดค้านการแต่งตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีต่อศาลอาญา ซึ่งศาลอาญาได้มีคำสั่งรับคำร้องคัดค้านดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม บริษัททีพีไอ โพลีนยึดหลักความระมัดระวังโดยการตั้งสำรองหนี้สินจากค่าปรับเป็นจำนวนเงิน 6,900 ล้านบาทไว้ในงบการเงิน ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2551 โดยบริษัทยังคงดำเนินการอุทธรณ์และโต้แย้งตามกระบวนการทางศาลต่อไป ทั้งนี้ ถึงแม้สำรองเงินค่าปรับจะเป็นรายการที่ไม่กระทบต่อตัวเงิน แต่ก็ส่งผลให้ส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทลดลงจาก 57,837 ล้านบาท (ก่อนการตั้งสำรอง) เหลือ 50,937 ล้านบาท (หลังการตั้งสำรอง) ซึ่งทำให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัทลดลง
ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งจะปลดเครดิตพินิจออกเมื่อการประเมินผลกระทบที่จะมีต่อฐานะทางการเงินของบริษัททีพีไอ โพลีน อันเกิดจากคดีเหล่านี้เป็นที่ชัดเจนแล้ว — จบ
บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) (TPIPL)
แนวโน้มเครดิตพินิจ: Negative
อันดับเครดิตองค์กร: BBB
-------------------------------------------------------------------------
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2551 ห้ามไม่มิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงมิได้รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้น ผลที่ได้รับ หรือการกระทำใดๆ โดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว