บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศยืนยันอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท อยุธยา ดีเวลลอปเม้นท์ ลีสซิ่ง จำกัด ที่ระดับ “BBB+” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” อันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งของบริษัทในธุรกิจสินเชื่อให้เช่าแบบลีสซิ่ง (Leasing) เพื่อเช่าเครื่องจักรและอุปกรณ์อุตสาหกรรม ตลอดจนการมีคณะผู้บริหารที่มีประสบการณ์ และความสามารถในการรักษาระดับต้นทุนการดำเนินงานในระดับต่ำ อันดับเครดิตได้พิจารณารวมถึงการสนับสนุนทางธุรกิจและการเงินจากผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวถูดลดทอนลงบางส่วนจากความเสี่ยงของการกระจุกตัวของฐานลูกค้าและคุณภาพเครดิตของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ค่อนข้างอ่อนแอเมื่อเทียบกับลูกค้าธนาคารพาณิชย์
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหวังของทริสเรทติ้งต่อความสามารถของคณะผู้บริหารของบริษัทอยุธยา
ดีเวลลอปเม้นท์ ลีสซิ่ง ในการขยายสินเชื่อและสร้างผลตอบแทนอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งรักษาต้นทุนการดำเนินงานให้อยู่ในระดับต่ำเอาไว้ได้ ทั้งนี้ อันดับเครดิตยังอยู่บนสมมติฐานที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาจะยังคงให้การสนับสนุนทั้งในด้านธุรกิจและการเงินแก่บริษัทต่อไป
ทริสเรทติ้งรายงานว่า ในปี 2548 สินเชื่อของบริษัทอยุธยา ดีเวลลอปเม้นท์ ลีสซิ่ง (รวมสินทรัพย์ให้เช่า) เพิ่มขึ้น 13.7% จาก 3,599 ล้านบาทในปี 2547 เป็น 4,092 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ 105 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมากกว่า 3 เท่าจาก 30 ล้านบาทในปี 2547 ผลประกอบการที่ดีขึ้นเป็นผลมาจากรายได้จากสินเชื่อใหม่ที่เพิ่มขึ้นในช่วงปี 2547-2548 เป็นหลัก ซึ่งสร้างกำไรให้บริษัทได้ในระดับหนึ่ง ด้วยฐานลูกค้าที่มีจำนวนไม่มากและระดับสินเชื่อเฉลี่ยต่อรายที่สูงทำให้บริษัทสามารถจัดการต้นทุนการดำเนินงานได้ดี โดยในช่วงปี 2542-2547 อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่อรายได้รวมของบริษัทอยู่ที่ประมาณ 14% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของคู่แข่งที่ 24%
ทริสเรทติ้งกล่าวว่า บริษัทยังคงมีฐานลูกค้าที่ไม่มากเนื่องจากธุรกิจเช่าการเงินของไทยยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐอเมริกา เยอรมัน และญี่ปุ่น การมีจำนวนลูกค้าน้อยส่งผลให้แหล่งรายได้ของบริษัทมีการกระจายตัวน้อยกว่าธนาคารพาณิชย์ โดยทั่วไปแล้ว ผู้เช่าซื้อนิยมใช้บริการเช่าการเงินเพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์พิเศษกว่าการกู้ยืมจากธนาคารพาณิชย์ เช่น ประหยัดภาษี งบดุลไม่ได้รับผลกระทบ กระแสเงินสดปรับตัวดีขึ้น เป็นต้น อย่างไรก็ตาม สำหรับบริษัทขนาดเล็กถึงขนาดกลางบางรายซึ่งไม่สามารถกู้เงินจากธนาคารพาณิชย์ได้ในวงเงินที่เพียงพอเนื่องจากขาดหลักฐานทางการเงินที่แข็งแกร่งหรือไม่มีทรัพย์สินที่เพียงพอสำหรับใช้ค้ำประกัน การเช่าการเงินก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งได้เช่นกัน ลักษณะของธุรกิจสินเชื่อให้เช่าแบบลีสซิ่งและนโยบายของบริษัท เช่น การเรียกเก็บเงินประกันการเช่า การรับประกันการซื้อคืนจากผู้จัดจำหน่าย และการแจ้งโอนการชำระหนี้จากลูกค้าของผู้เช่าจะช่วยลดโอกาสที่บริษัทจะขาดทุนจากการผิดนัดชำระของลูกหนี้ได้ในระดับหนึ่ง นอกเหนือจากลูกค้าขนาดเล็กและขนาดกลางแล้ว บริษัทยังได้ให้สินเชื่อแก่บริษัทขนาดใหญ่โดยการเสนอรูปแบบสินเชื่อที่เหมาะสมแก่ลูกค้าแต่ละรายด้วย
บริษัทเป็นผู้นำในธุรกิจให้สินเชื่อเช่าการเงิน (Financial Lease) ซึ่งเน้นการให้สินเชื่อสำหรับเช่าเครื่องจักรและอุปกรณ์อุตสาหกรรม บริษัทก่อตั้งในปี 2534 โดยความร่วมมือของสถาบันการเงิน 3 แห่ง คือ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา บรรษัทเงินทุนระหว่างประเทศ (IFC) และ Korea Development Financial Corporation (KDFC) ซึ่งเดิมรู้จักกันในชื่อ Korea Development Leasing Corporation (KDLC) ซึ่งเป็นบริษัทให้สินเชื่อให้เช่าแบบลีสซิ่งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเกาหลีใต้ หลังจาก IFC และ KDFC ขายหุ้นที่ถืออยู่ในบริษัททั้งหมดให้แก่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาไปในปี 2548 แล้ว สัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทของกลุ่มธนาคารกรุงศรีอยุธยาก็เพิ่มขึ้นจาก 57% เป็น 77% ณ ปัจจุบัน ธนาคารกรุงศรีอยุธยาอยู่ในระหว่างการเสนอซื้อหุ้นของบริษัทจากผู้ถือหุ้นอื่นๆ โดยบริษัทจะเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มธนาคารกรุงศรีอยุธยาที่ดำเนินธุรกิจเช่าการเงินตามแผนกลยุทธ์สู่การเป็นธนาคารแบบครบวงจร (Universal Banking) ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2549 วงเงินสินเชื่อจากธนาคารกรุงศรีอยุธยาเป็นแหล่งเงินทุนหลักของบริษัท ในส่วนของการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรของธนาคาร เช่น เครือข่ายสาขาของธนาคารนั้นต้องอาศัยระยะเวลาในการสร้างความร่วมมือทางธุรกิจกับทางธนาคารเนื่องจากธุรกิจสินเชื่อเช่าการเงินนั้นจำเป็นต้องอาศัยความรู้เฉพาะซึ่งแตกต่างจากการอนุมัติสินเชื่อโดยทั่วไปของธนาคารพาณิชย์ ทริสเรทติ้งกล่าว -- จบ
--------------------------------------------------------------------------------------------
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2549 ห้ามไม่มิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำ
เสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงมิได้รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้น ผลที่ได้รับ หรือการกระทำใดๆ โดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหวังของทริสเรทติ้งต่อความสามารถของคณะผู้บริหารของบริษัทอยุธยา
ดีเวลลอปเม้นท์ ลีสซิ่ง ในการขยายสินเชื่อและสร้างผลตอบแทนอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งรักษาต้นทุนการดำเนินงานให้อยู่ในระดับต่ำเอาไว้ได้ ทั้งนี้ อันดับเครดิตยังอยู่บนสมมติฐานที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาจะยังคงให้การสนับสนุนทั้งในด้านธุรกิจและการเงินแก่บริษัทต่อไป
ทริสเรทติ้งรายงานว่า ในปี 2548 สินเชื่อของบริษัทอยุธยา ดีเวลลอปเม้นท์ ลีสซิ่ง (รวมสินทรัพย์ให้เช่า) เพิ่มขึ้น 13.7% จาก 3,599 ล้านบาทในปี 2547 เป็น 4,092 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ 105 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมากกว่า 3 เท่าจาก 30 ล้านบาทในปี 2547 ผลประกอบการที่ดีขึ้นเป็นผลมาจากรายได้จากสินเชื่อใหม่ที่เพิ่มขึ้นในช่วงปี 2547-2548 เป็นหลัก ซึ่งสร้างกำไรให้บริษัทได้ในระดับหนึ่ง ด้วยฐานลูกค้าที่มีจำนวนไม่มากและระดับสินเชื่อเฉลี่ยต่อรายที่สูงทำให้บริษัทสามารถจัดการต้นทุนการดำเนินงานได้ดี โดยในช่วงปี 2542-2547 อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่อรายได้รวมของบริษัทอยู่ที่ประมาณ 14% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของคู่แข่งที่ 24%
ทริสเรทติ้งกล่าวว่า บริษัทยังคงมีฐานลูกค้าที่ไม่มากเนื่องจากธุรกิจเช่าการเงินของไทยยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐอเมริกา เยอรมัน และญี่ปุ่น การมีจำนวนลูกค้าน้อยส่งผลให้แหล่งรายได้ของบริษัทมีการกระจายตัวน้อยกว่าธนาคารพาณิชย์ โดยทั่วไปแล้ว ผู้เช่าซื้อนิยมใช้บริการเช่าการเงินเพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์พิเศษกว่าการกู้ยืมจากธนาคารพาณิชย์ เช่น ประหยัดภาษี งบดุลไม่ได้รับผลกระทบ กระแสเงินสดปรับตัวดีขึ้น เป็นต้น อย่างไรก็ตาม สำหรับบริษัทขนาดเล็กถึงขนาดกลางบางรายซึ่งไม่สามารถกู้เงินจากธนาคารพาณิชย์ได้ในวงเงินที่เพียงพอเนื่องจากขาดหลักฐานทางการเงินที่แข็งแกร่งหรือไม่มีทรัพย์สินที่เพียงพอสำหรับใช้ค้ำประกัน การเช่าการเงินก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งได้เช่นกัน ลักษณะของธุรกิจสินเชื่อให้เช่าแบบลีสซิ่งและนโยบายของบริษัท เช่น การเรียกเก็บเงินประกันการเช่า การรับประกันการซื้อคืนจากผู้จัดจำหน่าย และการแจ้งโอนการชำระหนี้จากลูกค้าของผู้เช่าจะช่วยลดโอกาสที่บริษัทจะขาดทุนจากการผิดนัดชำระของลูกหนี้ได้ในระดับหนึ่ง นอกเหนือจากลูกค้าขนาดเล็กและขนาดกลางแล้ว บริษัทยังได้ให้สินเชื่อแก่บริษัทขนาดใหญ่โดยการเสนอรูปแบบสินเชื่อที่เหมาะสมแก่ลูกค้าแต่ละรายด้วย
บริษัทเป็นผู้นำในธุรกิจให้สินเชื่อเช่าการเงิน (Financial Lease) ซึ่งเน้นการให้สินเชื่อสำหรับเช่าเครื่องจักรและอุปกรณ์อุตสาหกรรม บริษัทก่อตั้งในปี 2534 โดยความร่วมมือของสถาบันการเงิน 3 แห่ง คือ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา บรรษัทเงินทุนระหว่างประเทศ (IFC) และ Korea Development Financial Corporation (KDFC) ซึ่งเดิมรู้จักกันในชื่อ Korea Development Leasing Corporation (KDLC) ซึ่งเป็นบริษัทให้สินเชื่อให้เช่าแบบลีสซิ่งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเกาหลีใต้ หลังจาก IFC และ KDFC ขายหุ้นที่ถืออยู่ในบริษัททั้งหมดให้แก่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาไปในปี 2548 แล้ว สัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทของกลุ่มธนาคารกรุงศรีอยุธยาก็เพิ่มขึ้นจาก 57% เป็น 77% ณ ปัจจุบัน ธนาคารกรุงศรีอยุธยาอยู่ในระหว่างการเสนอซื้อหุ้นของบริษัทจากผู้ถือหุ้นอื่นๆ โดยบริษัทจะเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มธนาคารกรุงศรีอยุธยาที่ดำเนินธุรกิจเช่าการเงินตามแผนกลยุทธ์สู่การเป็นธนาคารแบบครบวงจร (Universal Banking) ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2549 วงเงินสินเชื่อจากธนาคารกรุงศรีอยุธยาเป็นแหล่งเงินทุนหลักของบริษัท ในส่วนของการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรของธนาคาร เช่น เครือข่ายสาขาของธนาคารนั้นต้องอาศัยระยะเวลาในการสร้างความร่วมมือทางธุรกิจกับทางธนาคารเนื่องจากธุรกิจสินเชื่อเช่าการเงินนั้นจำเป็นต้องอาศัยความรู้เฉพาะซึ่งแตกต่างจากการอนุมัติสินเชื่อโดยทั่วไปของธนาคารพาณิชย์ ทริสเรทติ้งกล่าว -- จบ
--------------------------------------------------------------------------------------------
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2549 ห้ามไม่มิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำ
เสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงมิได้รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้น ผลที่ได้รับ หรือการกระทำใดๆ โดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว