ทริสเรทติ้งลดอันดับเครดิตองค์กร “บล. เพื่อธุรกิจหลักทรัพย์” เป็น “BBB-” จาก “A”และกำหนด “เครดิตพินิจ” แนวโน้ม “ลบ”

ข่าวทั่วไป Friday November 7, 2008 17:41 —ทริส เรตติ้ง

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศลดอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัทหลักทรัพย์ เพื่อธุรกิจหลักทรัพย์ จำกัด เป็นระดับ “BBB-” จากเดิมที่ระดับ “A” ในขณะเดียวกันได้กำหนด “เครดิตพินิจ” (CreditAlert) แนวโน้ม “Negative” หรือ “ลบ” ให้แก่อันดับเครดิตดังกล่าว

โดย “เครดิตพินิจ” แนวโน้ม “ลบ” เป็นผลมาจากการที่ฐานเงินทุนและความยืดหยุ่นทางการเงินของบริษัทถดถอยลงอย่างมาก ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งกล่าวว่า หากบริษัทไม่สามารถบรรลุแผนการเพิ่มทุนที่ชัดเจนโดยเร่งด่วนได้ก็อาจมีการปรับลดอันดับเครดิตอีกหลายระดับ ในระหว่างนี้ ทริสเรทติ้งจะติดตามสถานะผลการดำเนินงานของบริษัทอย่างใกล้ชิดรายวัน ซึ่งหากฐานะทางการเงินของบริษัทยังคงได้รับผลกระทบจากสภาวะของตลาดเงินและตลาดทุนที่ไม่เอื้ออำนวยต่อไปอีกก็จะมีการปรับลดอันดับเครดิตลง

ทริสเรทติ้งรายงานว่า การปรับลดอันดับเครดิตและการกำหนดเครดิตพินิจในครั้งนี้สะท้อนถึงฐานะทางธุรกิจและการเงินของบริษัทหลักทรัพย์เพื่อธุรกิจหลักทรัพย์ที่ถดถอยลงอันเนื่องมาจากการที่บริษัทต้องตั้งสำรองหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญสำหรับลูกหนี้ธุรกิจหลักทรัพย์ รวมทั้งจากการขาดทุนที่เกิดขึ้นแล้วและที่ยังไม่เกิดขึ้นจากเงินลงทุนในหลักทรัพย์ ทั้งนี้ คาดว่าภาวะตกต่ำของตลาดหลักทรัพย์ในเดือนตุลาคม 2551 จะมีผลกระทบที่รุนแรงต่อฐานะทางการเงินและเงินทุนของบริษัทในไตรมาสสุดท้ายของปี 2551 เนื่องจากบริษัทมีเงินลงทุนในหลักทรัพย์และเงินให้สินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์ในระดับสูง นอกจากนี้ อันดับเครดิตที่ลดลงและเครดิตพินิจ “ลบ” ยังสะท้อนถึงการถดถอยลงของสภาพคล่องและความยืดหยุ่นทางการเงินของบริษัทด้วย

บริษัทหลักทรัพย์เพื่อธุรกิจหลักทรัพย์เป็นผู้ประกอบการรายเดียวในประเทศที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทการให้สินเชื่อเพื่อธุรกิจหลักทรัพย์ รวมถึงการให้สินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์ การให้สินเชื่อโดยจำนำหลักทรัพย์ และการขายหลักทรัพย์โดยมีสัญญาว่าจะซื้อคืน บริษัทมีสินทรัพย์รวม ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2551 จำนวน 21,825 ล้านบาท แบ่งเป็นลูกหนี้ธุรกิจหลักทรัพย์ 36% เงินลงทุนในตราสารหนี้ 34% เงินทุนในหน่วยลงทุน 25% และสินทรัพย์อื่น 5% จำนวนเงินลงทุนในหลักทรัพย์ทั้งสิ้น (ผ่านหน่วยลงทุน) คิดเป็น 48% ของเงินลงทุนทั้งหมด หรือคิดเป็น 1.6 เท่าของส่วนของผู้ถือหุ้น ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2551 ในขณะที่เงินกู้ยืมทั้งหมดของบริษัทอยู่ในรูปของเงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงินและตั๋วแลกเงินระยะสั้น

ผลกระทบจากวิกฤตสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ด้อยคุณภาพ (Subprime) ในประเทศสหรัฐอเมริกาและสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเมืองในประเทศที่ไม่เอื้ออำนวยส่งผลทำให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ตกลงอย่างมากในเดือนตุลาคม 2551 โดยดัชนีตลาดหลักทรัพย์ตกลง 210.26 จุด หรือ -35% จากระดับปิดที่ 596.54 จุดในวันที่ 2 ตุลาคม 2551 เป็น 387.43 จุดในวันที่ 27 ตุลาคม 2551 (ระดับปิดต่ำสุดของ เดือน) การตกลงของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ทำให้ราคาหลักประกันสำหรับสินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์ลดลงอย่างรุนแรงจนถึงระดับราคา บังคับขายหลักทรัพย์ และเป็นผลให้บริษัทต้องตั้งสำรองหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญสำหรับลูกหนี้ธุรกิจหลักทรัพย์ ในขณะเดียวกัน การเปลี่ยนแปลงในมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนในหน่วยลงทุนทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทลดลงอย่างมากจากรายการขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นของเงินลงทุนในหน่วยลงทุน

ณ เดือนมิถุนายน 2551 บริษัทบันทึกขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจากการลงทุนในหลักทรัพย์จำนวน 525 ล้านบาทซึ่งส่งผลให้ส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทลดลงมาอยู่ในระดับ 1,568 ล้านบาท จาก 2,129 ล้านบาท ณ เดือนธันวาคม 2550 ในขณะเดียวกัน สัดส่วนสินเชื่อจัดชั้นสงสัยจะสูญต่อสินเชื่อรวมก็เพิ่มขึ้นจาก 2.52% เมื่อปลายปี 2550 มาอยู่ในระดับ 3.1% ณ ปลายเดือนมิถุนายน 2551 ในช่วงครึ่งแรกของปี 2551 บริษัทตั้งสำรองหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญสำหรับลูกหนี้ธุรกิจหลักทรัพย์จำนวน 71 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 11% ของรายได้รวมของบริษัท รายได้สุทธิของบริษัทในช่วงครึ่งแรกของปี 2551 มีจำนวน 143 ล้านบาท โดยอัตราส่วนผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นรวมถัวเฉลี่ยและต่อสินทรัพย์รวมถัวเฉลี่ยที่ยังไม่ปรับเต็มปีอยู่ในระดับ 0.67% และ 7.76% ตามลำดับ เทียบกับระดับ 1.89% และ 18.41% สำหรับปี 2550

เมื่อประมาณการผลการดำเนินงานสำหรับครึ่งหลังของปี 2551 ของบริษัทโดยรวมผลกระทบจากดัชนีราคาตลาดหลักทรัพย์ที่ลดลงอย่างมากในช่วงเดือนตุลาคม 2551 แล้ว ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทมีแนวโน้มที่จะมีผลกำไรขาดทุนจากการตั้งสำรองหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญสำหรับลูกหนี้ธุรกิจหลักทรัพย์และการขาดทุนที่เกิดขึ้นจากการขายหลักทรัพย์เพื่อการลงทุนจำนวนหนึ่ง นอกเหนือจากผลกระทบจากการรับรู้ผลขาดทุนในงบกำไรขาดทุนแล้ว ส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทยังจะลดลงจนอยู่ในระดับที่ต่ำมากหรืออาจมีโอกาสติดลบจากผลขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจากการลงทุนในหน่วยลงทุนในจำนวนที่มีนัยสำคัญ ทริสเรทติ้งกล่าว -- จบ

บริษัทหลักทรัพย์ เพื่อธุรกิจหลักทรัพย์ จำกัด (TSFC)
อันดับเครดิตองค์กร:                              ลดลงเป็น BBB- จาก A
แนวโน้มเครดิตพินิจ:                              Negative หรือ ลบ
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2551 ห้ามไม่มิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต  ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ   แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ  ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน  บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงมิได้รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้น ผลที่ได้รับ หรือการกระทำใดๆ โดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ