ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ใหม่และคงอันดับเครดิตองค์กร “บ. น้ำประปาไทย” ที่ระดับ “AA-/Stable”

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday January 28, 2009 07:00 —ทริส เรตติ้ง

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 6,700 ล้านบาทของ บริษัท น้ำประปาไทย จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “AA-” ในขณะเดียวกันยังคงยืนยันอันดับเครดิตองค์กรของบริษัทที่ระดับ “AA-” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ไปชำระคืนเงินกู้ยืมจากธนาคารจำนวนประมาณ 6,000 ล้านบาท และส่วนที่เหลือจะนำไปใช้เป็นทุนขยายกำลังการผลิตน้ำประปาปริมาตร 120,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน (ลบ.ม./วัน) ที่โรงผลิตน้ำประปาบางเลน เนื่องจากเงินกู้ยืมปัจจุบันได้รับการค้ำประกันโดยสินทรัพย์ของบริษัท ดังนั้น อันดับเครดิตหุ้นกู้ของบริษัทจึงขึ้นอยู่กับความสำเร็จในการนำเงินกู้ใหม่ไปจ่ายหนี้เงินกู้ปัจจุบันและการปลดภาระค้ำประกันจากเงินกู้เดิม

อันดับเครดิตสะท้อนสถานะของบริษัทในการเป็นผู้ให้บริการน้ำประปาเอกชนรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ตลอดจนกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอจากสัญญาขายน้ำขั้นต่ำระยะยาว และความเสี่ยงในการดำเนินงานที่อยู่ในระดับต่ำ โดยการประเมินอันดับเครดิตดังกล่าวยังพิจารณาถึงความสามารถของคณะผู้บริหารและอุปสรรคในการเข้าสู่ธุรกิจที่อยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งดังกล่าวถูกลดทอนลงบางส่วนจากการที่บริษัทมีสัดส่วนเงินกู้จำนวนหนึ่งสำหรับใช้ลงทุนในโรงผลิตน้ำประปาและท่อจ่ายน้ำ รวมถึงความเสี่ยงจากการมีลูกค้าเพียงรายเดียวคือการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) และผลกระทบจากพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำที่ยังไม่มีข้อสรุป

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงการคาดการณ์ว่าบริษัทจะสามารถรักษาสถานะผู้นำในการเป็นผู้ให้บริการน้ำประปาเอกชนและคงความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดเอาไว้ได้โดยที่การดำเนินธุรกิจของบริษัทไม่น่าจะได้รับผลกระทบที่รุนแรงจากการออกพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ นอกจากนี้ บริษัทควรมีการพิจารณาการลงทุนในอนาคตอย่างรอบคอบโดยจะต้องไม่ให้มีผลกระทบต่อฐานะทางการเงินและสภาพคล่องของบริษัท ทั้งนี้ การให้การสนับสนุนทางการเงินใดใดแก่บริษัทแม่ที่มีฐานะทางการเงินที่อ่อนแอกว่าจะมีผลกระทบในด้านลบต่ออันดับเครดิตของบริษัท

ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัทน้ำประปาไทยเป็นผู้ให้บริการน้ำประปาเอกชนรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทยซึ่งมีกำลังการผลิตทั้งสิ้น 708,000 ลบ.ม./วัน บริษัทก่อตั้งในปี 2543 โดย บริษัท ช. การช่าง จำกัด (มหาชน) และ บริษัท เธมส์ วอเตอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด หลังจากที่บริษัทได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2551 แล้ว บริษัท ช. การช่างก็มีฐานะเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในสัดส่วน 35.0% ในขณะที่ บริษัท มิตซุย วอเตอร์ โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ถือ 25.9% บริษัทประกอบกิจการโรงผลิตน้ำประปา 2 แห่ง และเป็นผู้ให้บริการน้ำประปาใน 2 พื้นที่คือเขตพื้นที่จังหวัดนครปฐมและสมุทรสาครซึ่งบริษัทเป็นผู้ดำเนินการโดยตรง และเขตพื้นที่จังหวัดปทุมธานีซึ่งดำเนินการโดยบริษัทลูกที่บริษัทถือหุ้น 98% คือ บริษัท ประปาปทุมธานี จำกัด บริษัทให้บริการน้ำประปาภายใต้สัญญาซื้อขายน้ำประปากับ กปภ. อายุ 25 ปีซึ่งจะหมดสัญญาในปี 2566 และอายุ 30 ปีซึ่งจะหมดสัญญาในปี 2577 ปัจจุบัน กปภ. มีพันธะในการรับซื้อน้ำประปาจากบริษัทในปริมาณขั้นต่ำจำนวน 630,000 ลบ.ม./วัน ทั้งนี้ สูตรการคำนวณอัตราค่าน้ำจะเป็นไปตามดัชนีราคาผู้บริโภค ปัจจุบันบริษัทกำลังขยายกำลังการผลิตขนาด 120,000 ลบ.ม./วัน ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงต้นปี 2553 โดยปริมาณน้ำขั้นต่ำที่ กปภ. รับซื้อจะเพิ่มขึ้นจาก 9,000 ลบ.ม./วัน ณ ปีแรกที่เปิดให้บริการเป็น 54,000 ลบ.ม./วันในปีที่ 6 แม้บริษัทจะมีความเสี่ยงจากการที่มี กปภ. เป็นลูกค้าเพียงรายเดียว แต่สถานะความน่าเชื่อถือของ กปภ. ในฐานะเป็นรัฐวิสาหกิจนั้นอยู่ในระดับที่รับได้

บริษัทน้ำประปาไทยมีความเสี่ยงจากการดำเนินงานในระดับต่ำเมื่อเทียบกับหน่วยงานสาธารณูปโภคอื่นๆ เนื่องจากเทคโนโลยีในการผลิตน้ำประปาไม่ซับซ้อน อย่างไรก็ตาม ธุรกิจผลิตน้ำประปานั้นต้องใช้เงินลงทุนสูงในการสร้างโครงข่ายระบบส่งและจ่ายน้ำประปา อีกทั้งบริษัทยังเป็นเจ้าของท่อน้ำประธานและท่อจ่ายน้ำในพื้นที่ให้บริการบางส่วนซึ่งเป็นอุปสรรคต่อผู้ประกอบการรายใหม่ในพื้นที่ดังกล่าว แหล่งน้ำที่มีเพียงพอและคุณภาพน้ำเป็นปัจจัยสำคัญในการผลิตน้ำประปา แหล่งน้ำที่สำคัญในการผลิตน้ำประปาของบริษัทมาจากแม่น้ำท่าจีนและแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งเป็นแหล่งน้ำดิบที่มีปริมาณน้ำเพียงพอ แม้แหล่งน้ำแต่ละแห่งจะมีคุณภาพน้ำที่แตกต่างกัน แต่บริษัทก็สามารถนำน้ำไปผลิตเป็นน้ำประปาคุณภาพสูงเหมือนกันได้

ทริสเรทติ้งกล่าวว่า บริษัทน้ำประปาไทยมีรายได้ที่สม่ำเสมอและมีอัตราการเติบโตที่ต่อเนื่องเนื่องจากรายได้ของบริษัทได้รับการประกันโดยสัญญาที่มีการกำหนดปริมาณน้ำขั้นต่ำที่ต้องรับซื้อและความต้องการบริโภคน้ำประปาในพื้นที่ให้บริการที่เพิ่มขึ้น ยอดขายน้ำประปาในพื้นที่ให้บริการทั้งหมดเพิ่มขึ้น 9.0% ในปี 2550 และ 7.4% ในปี 2551 ทว่ายอดขายในปี 2552 คาดว่าจะลดลงโดยเฉพาะในส่วนของกลุ่มลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรมซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในเขตพื้นที่จังหวัดนครปฐมและสมุทรสาครเนื่องจากผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ

บริษัทมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งเนื่องจากการมีโครงสร้างสัญญาที่ดีกับ กปภ. อีกทั้งยังมีความต้องการน้ำที่อยู่ในระดับสูง บริษัทมีกระแสเงินสดภายในเพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอนับตั้งแต่เริ่มเปิดดำเนินการ รายได้รวมของบริษัทสำหรับช่วง 9 เดือนแรกของปี 2551 เพิ่มขึ้น 50% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สู่ระดับ 2,646 ล้านบาทเนื่องจากบริษัทรับรู้รายได้จากบริษัทประปาปทุมธานีเพียง 2 ไตรมาสสุดท้ายของปี 2550 ยอดขายของบริษัทมีสัดส่วน 66% ของรายได้ทั้งหมด โดยส่วนที่เหลือมาจากบริษัทประปาปทุมธานี ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเติบโตของการบริโภคน้ำประปาเกิดจากการที่ผู้บริโภคเปลี่ยนมาใช้น้ำประปาแทนน้ำบาดาลเพราะคุณภาพน้ำบาดาลที่ต่ำลงและการก่อสร้างที่อยู่อาศัยใหม่ในพื้นที่ให้บริการ ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา บริษัทมีอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้จากการขายอยู่ในระดับสูงที่ประมาณ 78%-79% เงินทุนจากการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2551 เพิ่มขึ้น 52% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สู่ระดับ 1,541 ล้านบาท เงินกู้รวมของบริษัท ณ สิ้นเดือนกันยายน 2551 ลดลงอย่างมากสู่ระดับ 9,781 ล้านบาท จากระดับ 13,678 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2550 หลังจากที่บริษัทนำเงินที่ได้จากการจำหน่ายหุ้นสามัญแก่ประชาชนครั้งแรกไปใช้จ่ายคืนหนี้เงินกู้จำนวน 3,000 ล้านบาท สำหรับช่วง 9 เดือนแรกของปี 2551 อัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมของบริษัทอยู่ที่ระดับ 15.8% ในขณะที่อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนปรับตัวดีขึ้นจากระดับ 74.4% ณ สิ้นปี 2550 สู่ระดับ 53.4% ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2551 -- จบ

บริษัท น้ำประปาไทย จำกัด (มหาชน) (TTW)
อันดับเครดิตองค์กร:                                                  คงเดิมที่ AA-
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
หุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 6,700 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2559            AA-
แนวโน้มอันดับเครดิต:                                                 Stable
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2552 ห้ามไม่มิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต  ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ   แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ  ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน  บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงมิได้รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้น ผลที่ได้รับ หรือการกระทำใดๆ โดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ