ทริสเรทติ้งจัดเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิคล้ายทุนของ “ธ. ทหารไทย” ที่ระดับ “BBB+”

ข่าวเศรษฐกิจ Friday April 3, 2009 10:48 —ทริส เรตติ้ง

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศอันดับเครดิตให้แก่หุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 ในวงเงินไม่เกิน 4,000 ล้านบาทของธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “BBB+” ในขณะเดียวกันยังคงอันดับเครดิตองค์กรของธนาคารที่ระดับ “A+” และคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกันของธนาคารที่ระดับ “A” ด้วยแนวโน้ม “Stable’ หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ด้อยสิทธิสะท้อนถึงความสามารถของคณะผู้บริหารและการสนับสนุนที่ต่อเนื่องจากผู้ถือหุ้น ในฐานะเป็นหุ้นส่วนเชิงกลยุทธ์ของธนาคาร ING Bank N.V. ได้เข้ามาบริหารกิจการของธนาคารอย่างเต็มที่และคาดว่าจะช่วยเสริมสถานภาพทางการเงินและการดำเนินงานของธนาคารให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยธนาคารได้รับประโยชน์ด้านความรู้ความชำนาญจาก ING Bank ในด้านระบบบริหารความเสี่ยง รวมทั้งจุดแข็งด้านธุรกิจธนาคารเพื่อรายย่อย การประกันภัย และบริการด้านบริหารสินทรัพย์ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเติบโตในอนาคต ธนาคารยังมีเงินกองทุนและค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญที่แข็งแกร่งเพื่อรองรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากแผนการขายหนี้เสียในปี 2552 และผลขาดทุนที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้จากความเสี่ยงในอนาคตเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมในการดำเนินงาน อย่างไรก็ตาม จุดเด่นดังกล่าวได้รับแรงกดดันจากการที่ธนาคารยังมีสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ในระดับค่อนข้างสูง ตลอดจนสภาพแวดล้อมทั้งทางเศรษฐกิจและธุรกิจที่ไม่เอื้ออำนวยซึ่งอาจจำกัดการขยายธุรกิจและความสามารถในการทำกำไรของธนาคาร

อันดับเครดิต “BBB+” ของหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 ของธนาคารสะท้อนถึงความด้อยสิทธิและความเสี่ยงในการเลื่อนชำระดอกเบี้ยสำหรับหุ้นกู้ดังกล่าว โดยหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนเป็นหุ้นกู้ที่ไม่มีกำหนดระยะเวลาชำระคืน ไม่สะสมผลตอบแทน มีลักษณะด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน และสามารถไถ่ถอนโดยธนาคารได้หลังจาก 5 ปี นับจากวันที่ออกตราสาร และไถ่ถอนได้ทุกๆ 6 เดือนหลังจากนั้น ผู้ถือหุ้นกู้ด้อยสิทธิประเภทนี้จะได้รับการชำระเงินในลำดับถัดจากผู้ฝากเงิน ผู้ถือหุ้นกู้ไม่มีประกัน และผู้ถือหุ้นกู้ด้อยสิทธิของธนาคาร โดยธนาคารจะไม่มีภาระผูกพันในการจ่ายดอกเบี้ยในกรณีที่ธนาคารคาดว่าจะไม่มีผลกำไรในงวดบัญชี 6 เดือนซึ่งเป็นช่วงเดียวกับกำหนดระยะเวลาการจ่ายดอกเบี้ยนั้น ทั้งนี้ การไม่จ่ายดอกเบี้ยดังกล่าวไม่ถือว่าเป็นการผิดนัดชำระหนี้ของธนาคาร

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหมายว่าธนาคารทหารไทยจะปรับปรุงคุณภาพสินทรัพย์ ตลอดจนความสามารถในการทำกำไร และสภาพคล่องได้ในระยะปานกลาง การสนับสนุนจาก ING Bank คาดว่าจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งของระบบบริหารความเสี่ยงและการปฏิบัติงาน ตลอดจนการเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจและขีดความสามารถในการแข่งขัน และการสร้างรายได้ที่แน่นอนในระยะปานกลาง อย่างไรก็ตาม การบรรลุผลสำเร็จตามแผนธุรกิจ 3 ปีภายใต้การบริหารของคณะผู้บริหารชุดใหม่ยังเป็นสิ่งที่ต้องรอการพิสูจน์ต่อไป

ทริสเรทติ้งรายงานว่า ณ เดือนธันวาคม 2551 ธนาคารทหารไทยเป็นธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ลำดับที่ 6 ของไทยเมื่อพิจารณาจากขนาดของสินทรัพย์ โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดของเงินให้สินเชื่อ 7% และเงินฝาก 7% ผู้ถือหุ้นใหญ่ของธนาคาร ณ วันที่ 9 มีนาคม 2552 ได้แก่ กลุ่ม ING Bank และกระทรวงการคลังซึ่งถือหุ้นในสัดส่วน 30.1% และ 26.1% ของหุ้นทั้งหมดตามลำดับ ผลประกอบการของธนาคารในปี 2551 ปรับตัวดีขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับปี 2550 โดยธนาคารรายงานผลกำไร 424 ล้านบาทในปี 2551 จากที่ขาดทุนสูงถึง 43.67 พันล้านบาทในปี 2550 ธนาคารมีสัดส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้อยู่ที่ระดับ 16.3% ในปี 2551 ซึ่งเป็นระดับเดียวกับปี 2550 และสูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมของธนาคารพาณิชย์ 12 แห่งซึ่งอยู่ที่ 6.9% อย่างไรก็ตาม ธนาคารมีอัตราส่วนสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (สินเชื่อจัดชั้นที่ค้างชำระเกิน 3 เดือน รวมทั้งยอดคงค้างสินเชื่อที่ปรับโครงสร้างหนี้ และสินทรัพย์รอการขาย) คิดเป็น 0.9 เท่าของเงินกองทุนและค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ ซึ่งใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ระดับ 0.8 เท่า แสดงให้เห็นถึงเงินกองทุนและค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญที่แข็งแกร่งเพียงพอที่จะรองรับขาดทุนที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้จากความเสี่ยงในอนาคต ธนาคารมีแผนในการขายหนี้เสียจำนวนประมาณ 20 พันล้านบาทภายในครึ่งแรกของปี 2552 ซึ่งจะทำให้คุณภาพสินทรัพย์โดยรวมของธนาคารดีขึ้น

ผู้บริหารในตำแหน่งที่สำคัญของธนาคารซึ่งได้แก่ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านความเสี่ยง (CRO) และประธานกลุ่มลูกค้ารายย่อยและลูกค้าธุรกิจ (Head of Retail Banking) ได้รับการแต่งตั้งโดย ING Bank ส่วนกรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ได้รับการแต่งตั้งโดยความเห็นชอบร่วมกันของกระทรวงการคลัง และ ING Bank ประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ได้รับแต่งตั้งในเดือนกรกฎาคม 2551 และคณะผู้บริหารระดับสูงของธนาคารได้รับการแต่งตั้งครบทั้งคณะในเดือนมีนาคม 2552 โดยคณะผู้บริหารทั้งหมดเป็นที่รู้จักในวงการธนาคารและต่างมีประสบการณ์ในตำแหน่งผู้บริหารระดับอาวุโสจากธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่มาก่อน ภารกิจสำคัญในปี 2552 คือการพัฒนาระบบบริหารความเสี่ยง การจัดโครงสร้างทรัพยากรบุคคลใหม่ รวมถึงการปฏิรูปสาขาและขยายช่องทางการให้บริการ ทั้งนี้ คณะผู้บริหารใหม่จะต้องเผชิญกับความท้าทายในการปรับปรุงคุณภาพสินทรัพย์และขยายฐานสินทรัพย์ที่ทำกำไรท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวย ทริสเรทติ้งกล่าว — จบ

ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน)
อันดับเครดิตองค์กร:                                                            คงเดิมที่ A+
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
TMB153A: หุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกัน 8,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558                        คงเดิมที่ A
หุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 ในวงเงินไม่เกิน 4,000 ล้านบาท          BBB+
แนวโน้มอันดับเครดิต:                                                           Stable
หมายเหตุ:  ธนาคารทหารไทยถือหุ้น 15.30% ใน บริษัท ทริสคอร์ปอเรชั่น จำกัด (ทริส) ซึ่งเป็นบริษัทที่ถือหุ้น 99.99% ในทริสเรทติ้ง
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2552 ห้ามมิให้บุคคลใดใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต  ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ   แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ  ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน  บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงมิได้รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้น ผลที่ได้รับ หรือการกระทำใดๆ โดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ