บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกัน (NMG072A, NMG092A) ของ บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ "BBB" พร้อมแนวโน้ม "Stable" หรือ "คงที่" โดยอันดับเครดิตสะท้อนสถานภาพทางการตลาดที่แข็งแกร่งของหนังสือพิมพ์ธุรกิจรายวัน "กรุงเทพธุรกิจ" และหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ "The Nation" ของบริษัท ตลอดจนความสามารถในการเป็นผู้ให้บริการด้านข่าวสารผ่านทางสื่อหลากหลายประเภท นอกจากนี้ อันดับเครดิตดังกล่าวยังสะท้อนถึงความสามารถของคณะผู้บริหาร อย่างไรก็ตาม จุดเด่นดังกล่าวถูกชดเชยด้วยความผันผวนของราคากระดาษหนังสือพิมพ์ อัตราการก่อหนี้ของบริษัทที่ยังสูง และภาวะตลาดโฆษณาที่เริ่มชะลอตัว
ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต "Stable" หรือ "คงที่" สะท้อนถึงการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะยังคงรักษาสถานภาพทางการตลาดที่แข็งแกร่งสำหรับหนังสือพิมพ์ธุรกิจรายวันเอาไว้ได้ โดยที่การใช้จ่ายด้านโฆษณาน่าจะกลับมาฟื้นตัวในระยะปานกลาง อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตหรือแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทอาจเปลี่ยนแปลงได้ในกรณีที่ตลาดโฆษณายังไม่ฟื้นตัวตามที่คาดการณ์ไว้ หรือสถานะทางการเงินของบริษัทยังไม่ปรับตัวดีขึ้นภายในช่วง 6-12 เดือนข้างหน้าจากภาวะปัจจุบันที่อยู่ในระดับอ่อนแอ
ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัทเนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านสื่อในระดับแนวหน้าของประเทศซึ่งผลิตสื่อหลากหลายประเภท อาทิ สิ่งพิมพ์ โทรทัศน์และวิทยุ รวมทั้งอินเทอร์เน็ต โดยสื่อสิ่งพิมพ์ยังคงเป็นธุรกิจหลักที่สร้างรายได้มากกว่า 90% และสร้างกำไรจากการดำเนินงานเกือบ 100% หนังสือพิมพ์ "กรุงเทพธุรกิจ" ของบริษัทจัดเป็นผู้นำที่โดดเด่นในกลุ่มหนังสือพิมพ์ธุรกิจรายวัน โดยสามารถรักษาฐานผู้อ่านไว้ได้ในภาวะการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจาก "โพสต์ ทูเดย์" และ "ผู้จัดการรายวัน" ในขณะที่หนังสือพิมพ์ "The Nation" ของบริษัทก็สามารถรักษาฐานผู้อ่านให้อยู่ในระดับใกล้เคียงกับผู้นำตลาดคือ "Bangkok Post" ส่วนหนังสือพิมพ์ "คม ชัด ลึก" ซึ่งเปิดตัวในเดือนตุลาคม 2544 ก็ถือเป็นแหล่งรายได้หลักของบริษัทตั้งแต่ปี 2545 เป็นต้นมา โดยหลังจากการรณรงค์ทำการตลาดอย่างหนักผ่านช่องทางจำหน่ายมากมาย ทำให้ "คม ชัด ลึก" เป็นที่รู้จักและได้รับการตอบรับจากผู้อ่านเป็นอย่างดีจนเป็นหนังสือพิมพ์รายวันติดอันดับหนึ่งในสามของหนังสือพิมพ์ที่มียอดจำหน่ายสูงสุด อย่างไรก็ตาม รายได้โฆษณาของ "คม ชัด ลึก" ได้ตกลงเป็น 386 ล้านบาทสำหรับ 9 เดือนแรกของปี 2548 จาก 424 ล้านบาทในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2547 ซึ่งเป็นผลกระทบจากภาวะตลาดโฆษณาผ่านหนังสือพิมพ์ที่เติบโตเพียง 2% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2548 โดยปกติแล้ว ภาวะตลาดโฆษณาที่ชะลอตัวลงจะส่งผลกระทบที่รุนแรงมากกว่าสำหรับหนังสือพิมพ์ที่ไม่ใช่ผู้นำตลาด
ทริสเรทติ้งกล่าวว่า แหล่งรายได้ที่สำคัญของธุรกิจหนังสือพิมพ์ของบริษัทเนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป มาจากการโฆษณาซึ่งจะมีปริมาณที่เคลื่อนไหวตามภาวะเศรษฐกิจ โดยที่ปริมาณการโฆษณาในหนังสือพิมพ์มีความผันผวนมากกว่าสื่ออื่นๆ ทั้งนี้ ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2548 ตลาดโฆษณาของสื่อทั้งหมดเติบโตขึ้น 5.0% ในขณะที่การเติบโตของสื่อหนังสือพิมพ์อยู่ที่ 2.0% ในช่วงเดียวกัน รายได้โฆษณาของบริษัทสำหรับ 9 เดือนแรกของปี 2548 ลดลง 13% เปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2547 อย่างไรก็ตาม ถึงแม้สัดส่วนรายได้โฆษณาจากหนังสือพิมพ์ของบริษัทเมื่อเปรียบเทียบกับอุตสาหกรรมจะลดลงจาก 12.5% ในปี 2547 เป็น 10.2% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2548 แต่ทริสเรทติ้งก็คาดว่าบริษัทจะยังคงรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดเอาไว้ได้จากการมีหนังสือพิมพ์หลักที่มีสถานะแข็งแกร่ง ได้แก่ กรุงเทพธุรกิจ "The Nation" และ คม ชัด ลึก นอกจากนี้ ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้บริษัทประสบความสำเร็จคือคณะผู้บริหารที่มีความสามารถและมีประสบการณ์ที่ยาวนาน อีกทั้งยังได้รับการยอมรับในความเป็นมืออาชีพในธุรกิจ โดยมีกลยุทธ์ในการเป็นผู้ผลิตข่าวสารและเนื้อหาสู่สื่อหลากหลายประเภท
อัตราการก่อหนี้ของบริษัทยังคงสูงอยู่โดยมีอัตราส่วนของเงินกู้รวม (รวมมูลค่าปัจจุบันของค่าเช่าเครื่องจักรตลอดอายุสัญญาเช่า) ต่อแหล่งเงินทุนที่ 66.3% ณ สิ้นปี 2547 และเพิ่มขึ้นเป็น 70.3% ณ เดือนกันยายน 2548 โดยภาระเงินกู้ที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เป็นไปเพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้แก่บริษัทหลังจากที่กระแสเงินสดจากการดำเนินงานลดลงอย่างมาก และใช้เป็นทุนในการซื้อกระดาษหนังสือพิมพ์สะสมไว้เป็นสินค้าคงคลังเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากราคากระดาษที่สูงขึ้นในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2548 เนื่องจากกระดาษหนังสือพิมพ์เป็นต้นทุนหลักของธุรกิจหนังสือพิมพ์ของบริษัท ทริสเรทติ้งกล่าว -- จบ
ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต "Stable" หรือ "คงที่" สะท้อนถึงการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะยังคงรักษาสถานภาพทางการตลาดที่แข็งแกร่งสำหรับหนังสือพิมพ์ธุรกิจรายวันเอาไว้ได้ โดยที่การใช้จ่ายด้านโฆษณาน่าจะกลับมาฟื้นตัวในระยะปานกลาง อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตหรือแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทอาจเปลี่ยนแปลงได้ในกรณีที่ตลาดโฆษณายังไม่ฟื้นตัวตามที่คาดการณ์ไว้ หรือสถานะทางการเงินของบริษัทยังไม่ปรับตัวดีขึ้นภายในช่วง 6-12 เดือนข้างหน้าจากภาวะปัจจุบันที่อยู่ในระดับอ่อนแอ
ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัทเนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านสื่อในระดับแนวหน้าของประเทศซึ่งผลิตสื่อหลากหลายประเภท อาทิ สิ่งพิมพ์ โทรทัศน์และวิทยุ รวมทั้งอินเทอร์เน็ต โดยสื่อสิ่งพิมพ์ยังคงเป็นธุรกิจหลักที่สร้างรายได้มากกว่า 90% และสร้างกำไรจากการดำเนินงานเกือบ 100% หนังสือพิมพ์ "กรุงเทพธุรกิจ" ของบริษัทจัดเป็นผู้นำที่โดดเด่นในกลุ่มหนังสือพิมพ์ธุรกิจรายวัน โดยสามารถรักษาฐานผู้อ่านไว้ได้ในภาวะการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจาก "โพสต์ ทูเดย์" และ "ผู้จัดการรายวัน" ในขณะที่หนังสือพิมพ์ "The Nation" ของบริษัทก็สามารถรักษาฐานผู้อ่านให้อยู่ในระดับใกล้เคียงกับผู้นำตลาดคือ "Bangkok Post" ส่วนหนังสือพิมพ์ "คม ชัด ลึก" ซึ่งเปิดตัวในเดือนตุลาคม 2544 ก็ถือเป็นแหล่งรายได้หลักของบริษัทตั้งแต่ปี 2545 เป็นต้นมา โดยหลังจากการรณรงค์ทำการตลาดอย่างหนักผ่านช่องทางจำหน่ายมากมาย ทำให้ "คม ชัด ลึก" เป็นที่รู้จักและได้รับการตอบรับจากผู้อ่านเป็นอย่างดีจนเป็นหนังสือพิมพ์รายวันติดอันดับหนึ่งในสามของหนังสือพิมพ์ที่มียอดจำหน่ายสูงสุด อย่างไรก็ตาม รายได้โฆษณาของ "คม ชัด ลึก" ได้ตกลงเป็น 386 ล้านบาทสำหรับ 9 เดือนแรกของปี 2548 จาก 424 ล้านบาทในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2547 ซึ่งเป็นผลกระทบจากภาวะตลาดโฆษณาผ่านหนังสือพิมพ์ที่เติบโตเพียง 2% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2548 โดยปกติแล้ว ภาวะตลาดโฆษณาที่ชะลอตัวลงจะส่งผลกระทบที่รุนแรงมากกว่าสำหรับหนังสือพิมพ์ที่ไม่ใช่ผู้นำตลาด
ทริสเรทติ้งกล่าวว่า แหล่งรายได้ที่สำคัญของธุรกิจหนังสือพิมพ์ของบริษัทเนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป มาจากการโฆษณาซึ่งจะมีปริมาณที่เคลื่อนไหวตามภาวะเศรษฐกิจ โดยที่ปริมาณการโฆษณาในหนังสือพิมพ์มีความผันผวนมากกว่าสื่ออื่นๆ ทั้งนี้ ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2548 ตลาดโฆษณาของสื่อทั้งหมดเติบโตขึ้น 5.0% ในขณะที่การเติบโตของสื่อหนังสือพิมพ์อยู่ที่ 2.0% ในช่วงเดียวกัน รายได้โฆษณาของบริษัทสำหรับ 9 เดือนแรกของปี 2548 ลดลง 13% เปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2547 อย่างไรก็ตาม ถึงแม้สัดส่วนรายได้โฆษณาจากหนังสือพิมพ์ของบริษัทเมื่อเปรียบเทียบกับอุตสาหกรรมจะลดลงจาก 12.5% ในปี 2547 เป็น 10.2% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2548 แต่ทริสเรทติ้งก็คาดว่าบริษัทจะยังคงรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดเอาไว้ได้จากการมีหนังสือพิมพ์หลักที่มีสถานะแข็งแกร่ง ได้แก่ กรุงเทพธุรกิจ "The Nation" และ คม ชัด ลึก นอกจากนี้ ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้บริษัทประสบความสำเร็จคือคณะผู้บริหารที่มีความสามารถและมีประสบการณ์ที่ยาวนาน อีกทั้งยังได้รับการยอมรับในความเป็นมืออาชีพในธุรกิจ โดยมีกลยุทธ์ในการเป็นผู้ผลิตข่าวสารและเนื้อหาสู่สื่อหลากหลายประเภท
อัตราการก่อหนี้ของบริษัทยังคงสูงอยู่โดยมีอัตราส่วนของเงินกู้รวม (รวมมูลค่าปัจจุบันของค่าเช่าเครื่องจักรตลอดอายุสัญญาเช่า) ต่อแหล่งเงินทุนที่ 66.3% ณ สิ้นปี 2547 และเพิ่มขึ้นเป็น 70.3% ณ เดือนกันยายน 2548 โดยภาระเงินกู้ที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เป็นไปเพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้แก่บริษัทหลังจากที่กระแสเงินสดจากการดำเนินงานลดลงอย่างมาก และใช้เป็นทุนในการซื้อกระดาษหนังสือพิมพ์สะสมไว้เป็นสินค้าคงคลังเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากราคากระดาษที่สูงขึ้นในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2548 เนื่องจากกระดาษหนังสือพิมพ์เป็นต้นทุนหลักของธุรกิจหนังสือพิมพ์ของบริษัท ทริสเรทติ้งกล่าว -- จบ