ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ “บ. ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ” ที่ “A/Stable”

ข่าวทั่วไป Friday July 17, 2009 09:02 —ทริส เรตติ้ง

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 12,000 ล้านบาทของ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A” ด้วยแนวโน้ม”Stable” หรือ “คงที่” โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ไปใช้ชำระคืนหนี้เงินกู้ โดยอันดับเครดิตอยู่บนสมมุติฐานว่าบริษัทจะไม่ใช้สิทธิในการไถ่ถอนหุ้นกู้แปลงสภาพก่อนที่จะมีการขายหุ้นกู้ใหม่ ทั้งนี้ อันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงจำนวนผู้โดยสารในระบบที่สม่ำเสมอ กระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่แน่นอน ประโยชน์จากการเป็นผู้ให้บริการขนส่งมวลชนระบบรางเพียงผู้เดียวในเขตกรุงเทพฯ ชั้นใน แนวโน้มการเติบโตของปริมาณผู้โดยสาร และการมีงบดุลที่แข็งแกร่งหลังออกจากแผนฟื้นฟูกิจการ ทว่าจุดแข็งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากการมีโครงข่ายการให้บริการเพียงโครงข่ายเดียว ตลอดจนการมีค่าใช้จ่ายในการลงทุนที่สูงในช่วง 4 ปีข้างหน้า ความเสี่ยงทางธุรกิจที่เพิ่มขึ้นจากการที่บริษัทเริ่มดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ผ่านทางบริษัทย่อย และความเสี่ยงทางการเมืองซึ่งบริษัทที่ได้รับสัมปทานจากภาครัฐมักประสบ นอกจากนี้ ผู้ถือหุ้นกู้ควรตระหนักว่าตามข้อกำหนดว่าด้วยสิทธิและหน้าที่ของบริษัทและผู้ถือหุ้นกู้นั้นไม่มีข้อห้ามมิให้บริษัทก่อภาระผูกพันในทรัพย์สินของบริษัท ถึงแม้ว่าปัจจุบันทรัพย์สินทั้งหมดของบริษัทจะปลอดจากภาระผูกพัน แต่บริษัทก็อาจจดจำนองทรัพย์สินให้แก่เจ้าหนี้ได้ในอนาคต หากเกิดกรณีดังกล่าว อันดับเครดิตหุ้นกู้อาจถูกปรับลดลงต่ำกว่าอันดับเครดิตองค์กรได้

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงการคาดการณ์ว่าบริษัทจะคงมาตรฐานการให้บริการที่ดีเพื่อรักษาจำนวนลูกค้าที่มาใช้บริการ แม้ทริสเรทติ้งจะคาดว่าในช่วง 4 ปีข้างหน้าบริษัทจะมีการลงทุนอย่างมากในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ แต่ความตั้งใจของผู้บริหารที่จะรักษาสถานะอันดับเครดิตให้ดีต่อไปและการมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่แข็งแกร่งจากธุรกิจรถไฟฟ้าน่าจะทำให้บริษัทสามารถรักษาโครงสร้างเงินทุนและความสามารถในการชำระหนี้ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมกับอันดับเครดิตได้

ทริสเรทติ้งรายงานว่าบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพก่อตั้งในปี 2535 โดยเป็นผู้ประกอบการเอกชนเพียงรายเดียวที่เป็นผู้ลงทุนในโครงการระบบขนส่งมวลชนในประเทศไทย บริษัทได้รับสัมปทานเป็นเวลา 30 ปีจากกรุงเทพมหานครเพื่อก่อสร้างและดำเนินการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือระบบรถไฟฟ้าบีทีเอสซึ่งเป็นระบบรางยกระดับที่เริ่มเปิดดำเนินการเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2542 โดยวิ่งอยู่เหนือถนนที่มีสภาพการจราจรติดขัด 3 สาย คือ สีลม สาทร และสุขุมวิท ผ่านชุมชนที่อยู่อาศัย ย่านเศรษฐกิจชั้นใน และย่านการค้าหลัก ระบบรถไฟฟ้าบีทีเอสมีสถานีรวม 25 สถานีซึ่งให้บริการเป็นระยะทางรวมทั้งสิ้น 25.7 กิโลเมตร โดยมี 2 สาย คือสายสีลม และสายสุขุมวิท และมีสถานีเชื่อมต่อระหว่าง 2 สายที่สถานีสยาม ระบบรถไฟฟ้าบีทีเอสเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าใต้ดิน (ดำเนินการโดย บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน)) ที่สถานีอโศก สถานีศาลาแดง และสถานีหมอชิต ความได้เปรียบในการแข่งขันของระบบรถไฟฟ้าบีทีเอสอยู่ที่ความปลอดภัย ความสะดวก และความตรงเวลาในการเดินทาง

บริษัทได้รับสิทธิในการจัดเก็บรายได้ค่าโดยสาร รวมทั้งการให้เช่าพื้นที่และการโฆษณาในสถานีจำนวน 23 สถานี (ยกเว้นสถานีที่เปิดใหม่ 2 สถานี คือ สถานีกรุงธนบุรี และสถานีวงเวียนใหญ่บนสายสีลม) ในวันที่ 29 มิถุนายน 2544 บริษัทได้ทำสัญญาให้สิทธิในการบริหารด้านการตลาดในการบริหารจัดการพื้นที่เช่าร้านค้าและพื้นที่โฆษณาภายในโครงการระบบรถไฟฟ้าแก่ บริษัท วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด (วีจีไอ โกลบอล) โดยบริษัทได้รับค่าธรรมเนียมขั้นต่ำตามที่ระบุไว้ หรือได้รับส่วนแบ่ง 50% ของรายได้ที่เกิดขึ้นจากการให้เช่าพื้นที่เพื่อการโฆษณาและขายสินค้าแล้วแต่อัตราใดจะสูงกว่า โดยบริษัทวีจีไอ โกลบอลเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการลงทุนและการดำเนินการเองทั้งหมด ในวันที่ 13 มีนาคม 2552 บริษัทได้ลงนามในสัญญาจะซื้อจะขายหุ้นทั้งหมดของบริษัทวีจีไอ โกลบอล กับ บริษัท เอฟเอ็นเอเซีย แอดไวซอรี่ จำกัด เป็นจำนวนเงิน 2,500 ล้านบาท ซึ่งการซื้อขายนี้คาดว่าจะเรียบร้อยภายในไตรมาสที่ 3 ของปี 2552 นอกเหนือจากธุรกิจสื่อโฆษณาแล้ว บริษัทยังได้ขยายงานไปสู่ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ตามแนวรถไฟฟ้าผ่านทางบริษัทย่อย คือ บริษัท นูโว ไลน์ เอเจนซี่ จำกัด (นูโว ไลน์) และ บริษัท ยูนิโฮลดิ้ง จำกัด (ยูนิโฮลดิ้ง) ด้วย ปัจจุบันบริษัทมีที่ดินรอการพัฒนาจำนวน 3 แปลง และที่ดินอีก 2 แปลงที่มีการทำสัญญาจะซื้อจะขายทั้งหมดอยู่ใกล้หรือติดกับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส โครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โครงการแรกของกลุ่มเป็นโรงแรม 4 ดาวซึ่งตั้งอยู่บนถนนสาทรใต้ติดกับสถานีรถไฟฟ้าสุรศักดิ์

ทริสเรทติ้งกล่าวว่าบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพประสบปัญหาทางด้านการเงินมาตั้งแต่เริ่มเปิดให้บริการ โดยมีผลการดำเนินงานที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งเป็นผลมาจากจำนวนผู้โดยสารที่ต่ำกว่าประมาณการ ในขณะที่ภาระหนี้เพิ่มสูงขึ้นจากการอ่อนตัวของค่าเงินบาท ส่งผลทำให้ดอกเบี้ยจ่ายสูงขึ้น จำนวนผู้โดยสารของระบบรถไฟฟ้าบีทีเอสเริ่มอยู่ในระดับที่คงตัวในปี 2547 โดยมีจำนวนผู้โดยสารถึง 100 ล้านเที่ยว ซึ่งใช้เวลา 4 ปีนับจากเริ่มให้บริการ ในรอบปีบัญชี 2552 จำนวนผู้โดยสารอยู่ที่ 135,939,800 เที่ยว โดยมีจำนวนผู้โดยสารในวันทำงานอยู่ที่ 429,004 เที่ยว/วัน ทริสเรทติ้งเชื่อว่าจำนวนผู้โดยสารของระบบรถไฟฟ้าบีทีเอสจะเติบโตอย่างต่อเนื่องซึ่งเป็นผลจากการขยายเส้นทางการให้บริการระบบรถไฟฟ้า การขยายตัวของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ตามแนวระบบรถไฟฟ้าบีทีเอส การจราจรบนท้องถนนที่ติดขัด และการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจในประเทศไทย

สำหรับปีบัญชีสิ้นสุดเดือนมีนาคม 2552 บริษัทรายงานกำไรทั้งสิ้น 21,911 ล้านบาท โดยมีกำไรจากการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ทั้งสิ้น 22,447 ล้านบาท รายได้ค่าโดยสารอยู่ที่ 3,288 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 67 ล้านบาท (2.1%) จากปีบัญชี 2551 ซึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้โดยสารที่ระดับ 2.1% อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาตกลงมาอยู่ที่ 52.77% เปรียบเทียบกับ 54.46% ในปีบัญชี 2551 เนื่องจากค่าใช้จ่ายที่ปรึกษาที่เพิ่มสูงขึ้นจากการปรับโครงสร้างทางการเงิน

หลังออกจากแผนฟื้นฟูกิจการในเดือนตุลาคม 2551 โครงสร้างเงินทุนของบริษัทก็อยู่ในระดับที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง ณ เดือนมีนาคม 2552 ภาระหนี้ (รวมประมาณการดอกเบี้ยจ่ายในอนาคตจำนวน 4,895 ล้านบาท แต่ไม่รวมหุ้นกู้แปลงสภาพจำนวน 5,745 ล้านบาท) อยู่ที่ 14,751 ล้านบาท อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนอยู่ที่ 31.39% และอัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมอยู่ที่ 10.7% อย่างไรก็ตาม ด้วยแผนการลงทุนที่สูงจึงทำให้ทริสเรทติ้งคาดว่าภาระหนี้ของบริษัทจะยังไม่ลดลงในช่วง 3-4 ปีข้างหน้า ถึงแม้ว่าเงินลงทุนจะสูงกว่ากระแสเงินสดจากการดำเนินงานในช่วงการก่อสร้างโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ แต่ก็คาดว่าบริษัทจะรักษาอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนให้อยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 40% -- จบ

บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BTSC)
อันดับเครดิตองค์กร:                                                            A
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
หุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 12,000 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2559                     A
แนวโน้มอันดับเครดิต                                                            Stable (คงที่)
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2552 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต  ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ   แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ  ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน  บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงมิได้รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้น ผลที่ได้รับ หรือการกระทำใดๆ โดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ