บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศปรับลดอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นระดับ “BBB-” จากเดิมที่ “BBB+” พร้อมแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตที่ปรับลดลงสืบเนื่องมาจากรายงานผลประกอบการขาดทุนของบริษัทซึ่งเกิดจากต้นทุนการก่อสร้างที่ปรับเพิ่มขึ้นมากโดยเฉพาะในโครงการขนาดใหญ่และสถานะทางการเงินที่อ่อนแอลง อันดับเครดิตดังกล่าวยังพิจารณาถึงสถานะของบริษัทที่เป็น 1 ใน 3 ของผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ของประเทศ และความผันผวนของอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้าง
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable“ หรือ “คงที่“ สะท้อนถึงความคาดหวังว่าผลประกอบการของบริษัทจะค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้น มาตรการในการควบคุมต้นทุน รวมทั้งอัตรากำไรที่สูงของโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าน่าจะส่งผลบวกต่อกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งยังคาดว่าบริษัทจะดำเนินนโยบายในการรับงานอย่างเข้มงวด โดยมุ่งเน้นที่อัตรากำไรมากกว่าปริมาณงานในมือ อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตอาจมีการเปลี่ยนแปลงหากมีปัจจัยที่จะกระทบต่อผลการดำเนินงานของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ
ทริสเรทติ้งรายงานว่า ผลประกอบการของบริษัทซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2549 ต่ำกว่าที่คาดการณ์อย่างมาก โดยมีผลขาดทุนจากการดำเนินงานจำนวน 910 ล้านบาทและขาดทุนสุทธิเมื่อรวมการตั้งสำรองเผื่อขาดทุนจากงานก่อสร้างจำนวน 1,805 ล้านบาท การขาดทุนดังกล่าวมีสาเหตุมาจากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนค่าก่อสร้างและการบริหารโครงการอันเนื่องมาจากความล่าช้าของโครงการ ส่งผลให้เงินทุนจากการดำเนินงานขาดทุน 690 ล้านบาท อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานลดลงอย่างมากมาอยู่ที่ -10.3% จาก 5.98% ในปี 2548 ผลขาดทุนนี้ทำให้กำไรสะสมของบริษัทหมดไปและกลายเป็นขาดทุนสะสม 1,304 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม การที่บริษัทได้รับเงินเพิ่มทุนจำนวน 1,885 ล้านบาทในไตรมาสแรกของปี 2549 มีผลทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทปรับลดลงเพียง 5.2% จากสิ้นปี 2548 มาอยู่ที่ 3,905 ล้านบาท ณ เดือนมิถุนายน 2549 ภาระเงินกู้ของบริษัทลดลงจาก 2,602 ล้านบาท ณ เดือนธันวาคม 2548 มาอยู่ที่ 2,066 ล้านบาท ณ เดือนมิถุนายน 2549 จากการที่บริษัทมีเงินรับล่วงหน้าจากงานก่อสร้างเพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2548 กว่า 2,294 ล้านบาท
ทริสเรทติ้งกล่าวว่า จากการชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน อุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างได้รับแรงกดดันจากการชะลอตัวลงของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และความล่าช้าในโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคของภาครัฐ ผลกระทบของต้นทุนค่าก่อสร้างที่สูงขึ้นยังคงเป็นสิ่งท้าทายสำหรับผู้รับเหมาก่อสร้างและผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ในช่วงภาวะการณ์เช่นนี้ การบริหารต้นทุนอย่างรอบคอบจะช่วยให้ผู้
รับเหมาก่อสร้างรักษาสถานะทางการเงินเอาไว้ได้ เพื่อเป็นการรักษาอัตรากำไรในช่วงภาวะยากลำบากเช่นนี้ บริษัทซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น ได้ดำเนินมาตรการในการควบคุมต้นทุนต่างๆ อาทิ การใช้ระบบการจัดการข้อมูลมากขึ้น และการจัดจ้างแรงงานแบบรับเหมาช่วง อย่างไรก็ตาม ในอนาคต อัตรากำไรของบริษัทจะยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดันจากการชะลอตัวลงของโครงการใหม่ๆ ตลอดจนการเพิ่มขึ้นของต้นทุนค่าก่อสร้าง และอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูง
ปัจจุบันบริษัทซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น มีฐานะเป็น 1 ใน 3 ของผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ที่สุดของประเทศซึ่งมีสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งในโครงการก่อสร้างภาครัฐ นอกจากนี้ บริษัทยังมีความชำนาญในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าและโรงงานปิโตรเคมีด้วย ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2549 บริษัทยังคงมีงานที่ยังไม่ส่งมอบคิดเป็นมูลค่า 32,216 ล้านบาท ทริสเรทติ้งกล่าว -- จบ
--------------------------------------------------------------------------------------------
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2549 ห้ามมิให้บุคคลใดใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงมิได้รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้น ผลที่ได้รับ หรือการกระทำใดๆ โดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable“ หรือ “คงที่“ สะท้อนถึงความคาดหวังว่าผลประกอบการของบริษัทจะค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้น มาตรการในการควบคุมต้นทุน รวมทั้งอัตรากำไรที่สูงของโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าน่าจะส่งผลบวกต่อกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งยังคาดว่าบริษัทจะดำเนินนโยบายในการรับงานอย่างเข้มงวด โดยมุ่งเน้นที่อัตรากำไรมากกว่าปริมาณงานในมือ อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตอาจมีการเปลี่ยนแปลงหากมีปัจจัยที่จะกระทบต่อผลการดำเนินงานของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ
ทริสเรทติ้งรายงานว่า ผลประกอบการของบริษัทซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2549 ต่ำกว่าที่คาดการณ์อย่างมาก โดยมีผลขาดทุนจากการดำเนินงานจำนวน 910 ล้านบาทและขาดทุนสุทธิเมื่อรวมการตั้งสำรองเผื่อขาดทุนจากงานก่อสร้างจำนวน 1,805 ล้านบาท การขาดทุนดังกล่าวมีสาเหตุมาจากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนค่าก่อสร้างและการบริหารโครงการอันเนื่องมาจากความล่าช้าของโครงการ ส่งผลให้เงินทุนจากการดำเนินงานขาดทุน 690 ล้านบาท อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานลดลงอย่างมากมาอยู่ที่ -10.3% จาก 5.98% ในปี 2548 ผลขาดทุนนี้ทำให้กำไรสะสมของบริษัทหมดไปและกลายเป็นขาดทุนสะสม 1,304 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม การที่บริษัทได้รับเงินเพิ่มทุนจำนวน 1,885 ล้านบาทในไตรมาสแรกของปี 2549 มีผลทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทปรับลดลงเพียง 5.2% จากสิ้นปี 2548 มาอยู่ที่ 3,905 ล้านบาท ณ เดือนมิถุนายน 2549 ภาระเงินกู้ของบริษัทลดลงจาก 2,602 ล้านบาท ณ เดือนธันวาคม 2548 มาอยู่ที่ 2,066 ล้านบาท ณ เดือนมิถุนายน 2549 จากการที่บริษัทมีเงินรับล่วงหน้าจากงานก่อสร้างเพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2548 กว่า 2,294 ล้านบาท
ทริสเรทติ้งกล่าวว่า จากการชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน อุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างได้รับแรงกดดันจากการชะลอตัวลงของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และความล่าช้าในโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคของภาครัฐ ผลกระทบของต้นทุนค่าก่อสร้างที่สูงขึ้นยังคงเป็นสิ่งท้าทายสำหรับผู้รับเหมาก่อสร้างและผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ในช่วงภาวะการณ์เช่นนี้ การบริหารต้นทุนอย่างรอบคอบจะช่วยให้ผู้
รับเหมาก่อสร้างรักษาสถานะทางการเงินเอาไว้ได้ เพื่อเป็นการรักษาอัตรากำไรในช่วงภาวะยากลำบากเช่นนี้ บริษัทซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น ได้ดำเนินมาตรการในการควบคุมต้นทุนต่างๆ อาทิ การใช้ระบบการจัดการข้อมูลมากขึ้น และการจัดจ้างแรงงานแบบรับเหมาช่วง อย่างไรก็ตาม ในอนาคต อัตรากำไรของบริษัทจะยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดันจากการชะลอตัวลงของโครงการใหม่ๆ ตลอดจนการเพิ่มขึ้นของต้นทุนค่าก่อสร้าง และอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูง
ปัจจุบันบริษัทซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น มีฐานะเป็น 1 ใน 3 ของผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ที่สุดของประเทศซึ่งมีสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งในโครงการก่อสร้างภาครัฐ นอกจากนี้ บริษัทยังมีความชำนาญในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าและโรงงานปิโตรเคมีด้วย ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2549 บริษัทยังคงมีงานที่ยังไม่ส่งมอบคิดเป็นมูลค่า 32,216 ล้านบาท ทริสเรทติ้งกล่าว -- จบ
--------------------------------------------------------------------------------------------
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2549 ห้ามมิให้บุคคลใดใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงมิได้รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้น ผลที่ได้รับ หรือการกระทำใดๆ โดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว