ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตองค์กรและตราสารหนี้ "บง. ธนชาติ" และ "ธ. ธนชาต" ที่ระดับ "A/Stable"

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday July 14, 2005 10:27 —ทริส เรตติ้ง

[หมายเหตุ: บริษัทเงินทุน ธนชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ National Finance PLC (NFS) เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ Thanachart Capital PLC (TCAP) เมื่อวันที่ 3 เม.ย. 2549 และ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ Thanachart Bank PLC เปลี่ยนชื่อย่อภาษาอังกฤษเป็น "TBANK" จากเดิมชื่อ "NBANK" เมื่อวันที่ 22 มี.ค. 2549
]
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จัดอันดับเครดิต บริษัทเงินทุน ธนชาติ จำกัด (มหาชน) (NFS) และหุ้นกู้ไม่มีประกันมูลค่ารวม 5,000 ล้านบาท ที่ระดับ "A" พร้อมทั้งจัดอันดับเครดิตองค์กรและตั๋วแลกเงิน 1,200 ล้านบาทของ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) (NBANK) ซึ่งเป็นบริษัทลูกที่ถือหุ้น 98.89% โดย บง. ธนชาติ ที่ระดับ "A" ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต "Stable" หรือ "คงที่" เช่นเดียวกัน
โดยอันดับเครดิตของ บง. ธนชาติ อยู่บนพื้นฐานของความสามารถของคณะผู้บริหารของบริษัท ตลอดจนการมีฐานะทางการตลาดในธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ที่แข็งแกร่ง ระบบการบริหารความเสี่ยงที่ดี ผลประกอบการทางการเงินที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และฐานรายได้ที่กระจายตัวไปยังค่าธรรมเนียมและบริการ การจัดอันดับเครดิตยังพิจารณาถึงแนวโน้มธุรกิจสินเชื่อรายย่อยที่ยังมีโอกาสขยายตัวได้และแนวโน้มของตลาดหลักทรัพย์ในระยะปานกลางที่สัมพันธ์กับภาวะเศรษฐกิจโดยรวม อย่างไรก็ตาม ปัจจัยสนับสนุนดังกล่าวถูกจำกัดจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ความไม่แน่นอนของธุรกิจหลักทรัพย์ และการแข่งขันที่เพิ่มมากขึ้นในธุรกิจสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภค ซึ่งอาจมีผลจำกัดการขยายตัวทางธุรกิจและความสามารถในการทำกำไรของบริษัท ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิตสะท้อนถึงความคาดหมายที่บริษัทจะมีผลประกอบการทางการเงินในระยปานกลางตามที่ได้คาดการณ์ไว้ การปรับโครงสร้างองค์กรเป็นบริษัทโฮลดิ้งคาดว่าจะดำเนินไปด้วยความราบรื่น ในขณะที่ระบบบริหารความเสี่ยงของบริษัทที่เป็นที่ยอมรับและฐานเงินทุนที่เพียงพอจะช่วยลดความเสี่ยงของบริษัทได้ในอนาคต
ส่วนอันดับเครดิตของธนาคารธนชาตสะท้อนสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ตลอดจนผู้บริหารที่มีความสามารถและประสบการณ์ในธุรกิจหลักในอนาคตของธนาคารคือสินเชื่อเช่าซื้อ นอกจากนี้ อันดับเครดิตดังกล่าวยังพิจารณาถึงแนวโน้มของการเติบโตของสินทรัพย์และเงินฝากของธนาคารภายหลังการปรับโครงสร้างธุรกิจของกลุ่มธนชาตและการขยายสาขาของธนาคารในอีก 2-3 ปีข้างหน้า อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งดังกล่าวถูกลดทอนลงบางส่วนจากภาวะการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจธนาคารพาณิชย์และข้อจำกัดในด้านเครือข่ายและช่องทางการให้บริการในปัจจุบัน รวมทั้งความเสี่ยงทางด้านเครดิตที่เกิดจากการกระจุกตัวของสินเชื่อที่อยู่อาศัยในปัจจุบันและสินเชื่อเช่าซื้อในอนาคต นอกจากนี้ ผลกำไรของธนาคารน่าจะถูกกระทบโดยค่าใช้จ่ายที่เพิ่มมากขึ้นจากการสร้างเครือข่ายของธนาคารเอง ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิตให้ความสำคัญกับบทบาทที่ธนาคารได้รับในฐานะผู้ดำเนินธุรกิจหลักทางด้านธนาคารพาณิชย์และการเงินของกลุ่ม นอกจากนี้ ยังคำนึงถึงตำแหน่งทางการตลาดที่แข็งแกร่งและความคาดหวังที่บริษัทแม่จะถ่ายโอนธุรกิจหลักของกลุ่มคือสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์สู่ธนาคารได้อย่างราบรื่น โดยคาดว่าอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยที่สูงขึ้นและความสามารถในการเพิ่มรายได้ค่าธรรมเนียมของธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อน่าจะช่วยบรรเทาภาระต้นทุนทางการเงินของธนาคารในช่วงขยายเครือข่าย นอกจากนี้ แนวโน้มดังกล่าวยังมาจากความคาดหวังที่ตลาดสินเชื่อเช่าซื้อจะยังคงเติบโตต่อไปในอีก 2-3 ปีข้างหน้าด้วย
ทริสเรทติ้งรายงานว่า แผนพัฒนาระบบสถาบันการเงินซึ่งได้ประกาศใช้ในเดือนมกราคม 2547 ทำให้กลุ่มธนชาติต้องปรับโครงสร้างธุรกิจในเครือตามนโยบายสถาบันการเงิน 1 รูปแบบ (One Presence) ซึ่งอนุญาตให้กลุ่มธุรกิจการเงินมีสถาบันการเงินที่รับฝากเงินจากประชาชนได้เพียง 1 แห่งภายในกลุ่ม ดังนั้นกลุ่มธนชาติ โดยการนำของ บง. ธนชาติ และธนาคารธนชาต จึงได้ยื่นเสนอแผนการปรับโครงสร้างธุรกิจในเครือต่อธนาคารแห่งประเทศไทยในกลางปี 2547 และได้รับการอนุมัติในเดือนเมษายน 2548 ที่ผ่านมา โดยในระยะเวลาที่เหลือของปี 2548 และในอีก 2-3 ปีข้างหน้า กลุ่มธนชาติจะมุ่งเน้นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างภายในโดยบริษัทแม่ คือ บง. ธนชาติจะทยอยโอนธุรกิจทางการเงินทุกประเภทซึ่งรวมถึงธุรกิจสำคัญคือสินเชื่อเช่าซื้อ (Hire Purchase) ให้แก่ธนาคารธนชาตซึ่งจะกลายเป็นผู้ประกอบธุรกิจการเงินหลักของกลุ่มต่อไป โดย บง. ธนชาติจะมีฐานะเป็นบริษัทโฮลดิ้งที่มีสินทรัพย์ดำเนินงานจนกว่าสินเชื่อเช่าซื้อที่มีอยู่จะค่อยๆ ลดลงจนหมดไปภายในประมาณ 3 ปีข้างหน้า และจะรวมศูนย์กลางระบบการดำเนินงานและการบริหารจัดการของกลุ่มเพื่อให้สามารถบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทริสเรทติ้งกล่าวว่า บุคลากรด้านสินเชื่อเช่าซื้อที่แข็งแกร่งและระบบปฏิบัติการที่มีประสิทธิภาพซึ่งทำให้ บง. ธนชาติ เป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ที่สุดในธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อจะช่วยให้ธนาคารธนชาตมีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการประกอบธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ให้ประสบความสำเร็จได้ต่อไป ส่วนภารกิจอื่นๆ ที่ธนาคารธนชาตยังจะต้องดำเนินการต่อไปในระยะ 2-3 ปีข้างหน้า ได้แก่ การขยายช่องทางการให้บริการและเครือข่ายสาขา การรวมศูนย์ระบบปฏิบัติการสำหรับธุรกิจหลัก คือ ธนาคารพาณิชย์และสินเชื่อเช่าซื้อเข้าด้วยกัน ตลอดจนการเพิ่มผลิตภัณฑ์ของธนาคาร - จบ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ