บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ยืนยันอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท ภัทรลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) และหุ้นกู้ไม่มีประกันของบริษัท (PL066A, PL073A, PL079A, PL08OA, PL081A, PL094A) ที่ระดับ "A-" ในขณะเดียวกันได้จัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 200 ล้านบาทของบริษัทที่ระดับ "A-" พร้อมแนวโน้ม "Stable" หรือ "คงที่" อันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงความสามารถของผู้บริหารในการรักษาสถานะผู้นำทางการตลาดที่แข็งแกร่งในธุรกิจให้เช่าดำเนินงานรถยนต์ (Operating Lease) ในภาวะที่การแข่งขันทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงระบบการบริหารความเสี่ยงที่ดีและกระบวนการพิจารณาสินเชื่อที่เข้มงวดซึ่งทำให้บริษัทสามารถรักษาคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีในช่วงการขยายตัวอย่างรวดเร็วของสินทรัพย์ให้เช่า อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวถูกลดทอนจากปัจจัยแวดล้อมทางเศรษฐกิจและธุรกิจที่เอื้ออำนวยน้อยลง เช่น ราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ภาวะการแข่งขันที่รุนแรง และต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น ซึ่งอาจจำกัดความสามารถในการทำกำไรและการขยายธุรกิจของบริษัทในอนาคต
แนวโน้มอันดับเครดิต "Stable" หรือ "คงที่" สะท้อนถึงศักยภาพของบริษัทในการรักษาตำแหน่งผู้นำในธุรกิจให้เช่าดำเนินงานรถยนต์และสามารถสร้างผลประกอบการในระยะปานกลางได้ตามที่คาดหมายไว้ โดยบริษัทมีแนวโน้มที่จะสามารถรักษาฐานลูกค้ากลุ่มเดิมที่สำคัญไปพร้อมกับการขยายฐานลูกค้าใหม่โดยที่ยังคงรักษาคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีเอาไว้ได้ อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทยังคงได้รับแรงกดดันจากการแข่งขันที่รุนแรงและต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้น
ทริสเรทติ้งรายงานว่า ภาวะการแข่งขันที่รุนแรงและราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นมีผลกดดันทำให้การขยายตัวของสินทรัพย์ให้เช่าและความสามารถในการทำกำไรของบริษัทภัทรลิสซิ่งอ่อนตัวลงเล็กน้อย โดยยอดสินทรัพย์ให้เช่าใหม่โดยเฉลี่ยของบริษัทลดลงมาอยู่ในระดับ 346 ล้านบาทต่อไตรมาสในช่วงปี2548 (ตุลาคม 2547- กันยายน 2548) และไตรมาสแรกของปี 2549 จากระดับ 455 ล้านบาทต่อไตรมาสในช่วงปี 2547 บริษัทมีกำไรสุทธิในปีบัญชี 2548 เท่ากับ 182 ล้านบาท โดยลดลงจาก 199 ล้านบาทในปีบัญชี 2547 กำไรสุทธิของบริษัทสำหรับไตรมาสแรกของปี 2549 ลดลงมาอยู่ในระดับ 45 ล้านบาทจากระดับ 50 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อนเนื่องจากบริษัทมีกำไรจากการขายสินทรัพย์ให้เช่าและสินทรัพย์รอการขาย ตลอดจนอัตราผลกำไรสุทธิที่ลดลง การขยายสินทรัพย์ให้เช่าโดยใช้เงินกู้ยืมเป็นส่วนใหญ่ทำให้บริษัทมีการก่อหนี้ในระดับสูง อย่างไรก็ตาม การก่อหนี้ของบริษัทปรับตัวดีขึ้นหลังจากที่บริษัทเพิ่มทุนจดทะเบียนเมื่อเดือนกันยายน 2548 โดยอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทลดลงเป็น 69.86% จาก 77.98% ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2548 การออกหุ้นกู้จำนวน 200 ล้านบาทในครั้งนี้จะช่วยให้บริษัทมีโครงสร้างสินทรัพย์และหนี้สินที่มีความสอดคล้องกันมากยิ่งขึ้น -- จบ
แนวโน้มอันดับเครดิต "Stable" หรือ "คงที่" สะท้อนถึงศักยภาพของบริษัทในการรักษาตำแหน่งผู้นำในธุรกิจให้เช่าดำเนินงานรถยนต์และสามารถสร้างผลประกอบการในระยะปานกลางได้ตามที่คาดหมายไว้ โดยบริษัทมีแนวโน้มที่จะสามารถรักษาฐานลูกค้ากลุ่มเดิมที่สำคัญไปพร้อมกับการขยายฐานลูกค้าใหม่โดยที่ยังคงรักษาคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีเอาไว้ได้ อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทยังคงได้รับแรงกดดันจากการแข่งขันที่รุนแรงและต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้น
ทริสเรทติ้งรายงานว่า ภาวะการแข่งขันที่รุนแรงและราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นมีผลกดดันทำให้การขยายตัวของสินทรัพย์ให้เช่าและความสามารถในการทำกำไรของบริษัทภัทรลิสซิ่งอ่อนตัวลงเล็กน้อย โดยยอดสินทรัพย์ให้เช่าใหม่โดยเฉลี่ยของบริษัทลดลงมาอยู่ในระดับ 346 ล้านบาทต่อไตรมาสในช่วงปี2548 (ตุลาคม 2547- กันยายน 2548) และไตรมาสแรกของปี 2549 จากระดับ 455 ล้านบาทต่อไตรมาสในช่วงปี 2547 บริษัทมีกำไรสุทธิในปีบัญชี 2548 เท่ากับ 182 ล้านบาท โดยลดลงจาก 199 ล้านบาทในปีบัญชี 2547 กำไรสุทธิของบริษัทสำหรับไตรมาสแรกของปี 2549 ลดลงมาอยู่ในระดับ 45 ล้านบาทจากระดับ 50 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อนเนื่องจากบริษัทมีกำไรจากการขายสินทรัพย์ให้เช่าและสินทรัพย์รอการขาย ตลอดจนอัตราผลกำไรสุทธิที่ลดลง การขยายสินทรัพย์ให้เช่าโดยใช้เงินกู้ยืมเป็นส่วนใหญ่ทำให้บริษัทมีการก่อหนี้ในระดับสูง อย่างไรก็ตาม การก่อหนี้ของบริษัทปรับตัวดีขึ้นหลังจากที่บริษัทเพิ่มทุนจดทะเบียนเมื่อเดือนกันยายน 2548 โดยอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทลดลงเป็น 69.86% จาก 77.98% ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2548 การออกหุ้นกู้จำนวน 200 ล้านบาทในครั้งนี้จะช่วยให้บริษัทมีโครงสร้างสินทรัพย์และหนี้สินที่มีความสอดคล้องกันมากยิ่งขึ้น -- จบ