บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศเปลี่ยนแปลงแนวโน้มอันดับเครดิตของหน่วยงาน 3 แห่ง ได้แก่ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) เป็น “Positive” หรือ ”บวก” จากเดิม “Stable” หรือ “คงที่” หลังจากมีประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2553 ซึ่งระบุว่าธนาคารธนชาตจะซื้อหุ้นของธนาคารนครหลวงไทยในสัดส่วน 47.8% จากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน และธนาคารจะยื่นประมูลซื้อหุ้นส่วนที่เหลือของธนาคารนครหลวงไทยในตลาดหลักทรัพย์ในช่วงเดือนเมษายน-กรกฎาคม 2553
โดยทริสเรทติ้งรายงานว่า แนวโน้มอันดับเครดิต “Positive” หรือ “บวก” ของธนาคารธนชาตสะท้อนถึงความคาดหมายว่าฐานะทางการตลาดในธุรกิจธนาคารพาณิชย์ของธนาคารภายใต้การควบรวมกิจการจะแข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยโครงสร้างสินเชื่อและฐานเงินฝากของธนาคารจะมีการกระจายตัวมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ แนวโน้มอันดับเครดิตยังสะท้อนถึงฐานทุนของธนาคารที่แข็งแกร่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตามแผนการเพิ่มทุนของธนาคาร ทั้งนี้ จากต้นทุนในการซื้อหุ้นของธนาคารนครหลวงไทยเต็ม 100% มูลค่ารวมประมาณ 68 พันล้านบาทนั้น ธนาคารจะได้เงินจากเงินเพิ่มทุนจำนวน 35.8 พันล้านบาทจากผู้ถือหุ้น 2 รายคือบริษัททุนธนชาตและ Bank of Nova Scotia (BNS) นอกจากนี้ ยังมีเงินจำนวน 7.1 พันล้านบาทและ 6 พันล้านบาทจากการออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2 ตามลำดับ โดยส่วนที่เหลือจะใช้เงินสดในมือ
ส่วนแนวโน้มอันดับเครดิตของธนาคารนครหลวงไทยนั้นสะท้อนถึงฐานะทางเครดิตของธนาคารที่แข็งแกร่งขึ้นเนื่องจากได้รับแรงหนุนจากฐานะทางเครดิตของธนาคารธนชาตซึ่งมีฐานะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่หลังจากที่ธนาคารธนชาตซื้อหุ้นของธนาคารจากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิตใหม่ของบริษัททุนธนชาตนั้นเปลี่ยนตามแนวโน้มอันดับเครดิตของธนาคารธนชาตเนื่องจากบริษัทเป็นบริษัทโฮลดิ้งซึ่งลงทุนในกลุ่มธนชาตโดยมีอำนาจการบริหารงานในธนาคารธนชาตผ่านการถือหุ้นในสัดส่วน 50.92% และบริษัทได้รับผลตอบแทนในรูปของเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอจากธนาคาร
ทริสเรทติ้งกล่าวว่า ณ เดือนธันวาคม 2552 ขนาดสินทรัพย์ตามงบการเงินรวมของธนาคารธนชาตมีจำนวน 434 พันล้านบาท ในขณะที่ธนาคารนครหลวงไทยมีจำนวน 424 ล้านบาท ภายหลังการควบรวมกิจการแล้ว ธนาคารธนชาตจะมีขนาดสินทรัพย์ในลำดับที่ 5 (จากเดิมในลำดับที่ 8) ในกลุ่มธนาคารพาณิชย์เต็มรูปแบบ (Universal Bank) ของไทยทั้ง 14 แห่ง ธนาคารยังได้รับประโยชน์จากการผสานธุรกิจกับธนาคารนครหลวงไทยเนื่องจากธนาคารทั้งสองต่างมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่แตกต่างกัน โดยประมาณ 80% ของสินเชื่อของธนาคารธนชาตเป็นสินเชื่อเพื่อการบริโภค และเพียง 20% เป็นสินเชื่อธุรกิจ ในขณะที่ 67% ของสินเชื่อของธนาคารนครหลวงไทยเป็นสินเชื่อธุรกิจ หลังจากการควบรวมกิจการแล้ว ธนาคารจะมีการผสมผสานของสินเชื่อที่ดียิ่งขึ้นระหว่างสินเชื่อเพื่อการบริโภคและสินเชื่อธุรกิจในสัดส่วน 60% และ 40% ตามลำดับ สำหรับในด้านของหนี้สินนั้น ฐานเงินฝากที่คงที่และกระจายตัวจากการมีประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจที่ยาวนานกว่าคาดว่าจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ฐานเงินทุนของธนาคารธนชาตในอนาคต
อันดับเครดิตองค์กรของธนาคารธนชาตยังคงเดิมที่ระดับ “A+” ในขณะที่อันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกันคงอยู่ที่ระดับ “A” และหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ของธนาคารยังคงอยู่ที่ระดับ “A-” ส่วนอันดับเครดิตองค์กรของธนาคารนครหลวงไทยยังคงเดิมที่ระดับ “A” ในขณะที่อันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิของธนาคารยังคงเดิมที่ระดับ “A-” และอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ของบริษัททุน ธนชาตยังคงอยู่ที่ระดับ “A” เท่ากัน ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งจะทำการทบทวนอันดับเครดิตของหน่วยงานทั้ง 3 แห่งหลังจากที่แผนการควบรวมกิจการของธนาคารธนชาตแล้วเสร็จและได้รับความเห็นชอบจากผู้ถือหุ้นในเดือนเมษายน 2553 เรียบร้อยแล้ว ทริสเรทติ้งกล่าว — จบ
อันดับเครดิตองค์กร: คงเดิมที่ A+ อันดับเครดิตตราสารหนี้: TBANK155A: หุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกัน 5,000 ล้านบาท ไถ่ถอน 2558 คงเดิมที่ A TBANK194A: หุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอน 2562 คงเดิมที่ A TBANK197A: หุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 คงเดิมที่ A- 3,500 ล้านบาท ไถ่ถอน 2562 TBANK247A: หุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 คงเดิมที่ A- 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอน 2567 แนวโน้มอันดับเครดิต: Positive (บวก) จากเดิม Stable (คงที่) ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) (SCIB) อันดับเครดิตองค์กร: คงเดิมที่ A อันดับเครดิตตราสารหนี้: SCIB196A: หุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกัน 10,000 ล้านบาท ไถ่ถอน 2562 คงเดิมที่ A- แนวโน้มอันดับเครดิต: Positive (บวก) จากเดิม Stable (คงที่) บริษัททุนธนชาต จำกัด (มหาชน) (TCAP) อันดับเครดิตองค์กร: คงเดิมที่ A อันดับเครดิตตราสารหนี้: TCAP103A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 4,000 ล้านบาท ไถ่ถอน 2553 คงเดิมที่ A TCAP105A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,500 ล้านบาท ไถ่ถอน 2553 คงเดิมที่ A TCAP11NA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอน 2554 คงเดิมที่ A TCAP131A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอน 2556 คงเดิมที่ A TCAP14NA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 9,000 ล้านบาท ไถ่ถอน 2557 คงเดิมที่ A แนวโน้มอันดับเครดิต: Positive (บวก) จากเดิม Stable (คงที่)
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2553 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงมิได้รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้น ผลที่ได้รับ หรือการกระทำใดๆ โดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว