บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศยืนยันอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้มีการค้ำประกันชุดปัจจุบัน (GLOW089A, GLOW09OA, GLOW10DA) ของ บริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) (โกลว์) ที่ระดับ “A” ในขณะเดียวกันได้จัดอันดับเครดิตหุ้นกู้มีการค้ำประกันในวงเงินไม่เกิน 2,000 ล้านบาทของบริษัทที่ระดับ “A” พร้อมแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอจากสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว (PPA) ของบริษัทกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และสัญญาซื้อขายไฟฟ้าและไอน้ำระยะยาวกับกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรม นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับการยอมรับว่าสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าและให้บริการสาธารณูปโภคอื่นๆ ที่แน่นอนเชื่อถือได้ รวมทั้งได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากผู้ถือหุ้นใหญ่คือกลุ่ม SUEZ ทั้งนี้ อันดับเครดิตยังพิจารณาถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมและความไม่แน่นอนของกฎหมายสำหรับอุตสาหกรรมพลังงานฉบับใหม่ ในด้านการขยายธุรกิจนั้น โกลว์เผชิญกับภาวะการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจากกลุ่ม ปตท. รวมถึงความเสี่ยงจากการก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ และความไม่แน่นอนของการแข่งขันประมูลในโครงการผู้ผลิตไฟฟ้าอิสระรอบใหม่
แนวโน้มอันดับเครดิต "Stable" หรือ "คงที่" สะท้อนถึงกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอของโกลว์จากการมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาวกับ กฟผ. และกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรม โดยคาดว่าบริษัทจะยังคงรักษาสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งเอาไว้ได้และมีความสามารถในการจัดสรรเงินทุนในการขยายธุรกิจโดยไม่กระทบต่อสถานะทางการเงิน
ทริสเรทติ้งรายงานว่า โกลว์ก่อตั้งเมื่อปี 2536 เพื่อประกอบธุรกิจด้านพลังงาน โครงสร้างธุรกิจของบริษัทประกอบด้วยผู้ผลิตไฟฟ้าอิสระรายเล็ก (SPP) 4 ราย และผู้ผลิตไฟฟ้าอิสระ (IPP) 1 รายจากทั้งหมด 7 รายในประเทศไทย กลุ่มโกลว์ถือเป็นกลุ่ม SPP ที่ใหญ่ที่สุดในไทยซึ่งมีกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งรวม 996 เมกะวัตต์ และมีกำลังการผลิตไอน้ำ 968 ตันต่อชั่วโมง โดยมี บริษัท โกลว์ไอพีพี จำกัด (GIPP) ซึ่งเป็นบริษัทลูกดำเนินธุรกิจภายใต้โครงการ IPP รับผิดชอบโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมขนาด 713 เมกะวัตต์ กำลังการผลิตไฟฟ้ารวมทั้งหมดของกลุ่มโกลว์มี 1,709 เมกะวัตต์ โดยมีสัญญา PPA อายุ 21-25 ปีเพื่อขายไฟฟ้าให้แก่ กฟผ. ในปริมาณรวม 76% ของกำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งหมด และมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า ไอน้ำ และน้ำปราศจากแร่ธาตุระยะยาวอายุประมาณ 10-20 ปีกับลูกค้าอุตสาหกรรม ซึ่งทำให้บริษัทมีรายได้ที่สม่ำเสมอ ในปี 2549 บริษัทมีรายได้จากการขายไฟฟ้าคิดเป็น 87% ของรายได้รวม โดยเป็นรายได้จาก กฟผ. 72% และจากลูกค้าอุตสาหกรรม 28% ของรายได้จากการขายไฟฟ้าทั้งหมด
ธุรกิจ SPP ของบริษัทซึ่งมีโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมตั้งอยู่ในเขตนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดและนิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ดในจังหวัดระยองส่วนใหญ่ให้บริการแก่ลูกค้าซึ่งเป็นโรงงานปิโตรเคมี หลังจากจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในเดือนเมษายน 2548 การถือหุ้นของกลุ่ม SUEZ ในโกลว์ได้ลดลงจาก 99% เป็น 69% SUEZ เป็นกลุ่มอุตสาหกรรมและบริการนานาชาติซึ่งดำเนินธุรกิจหลักด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม ในปี 2549 SUEZ มีความสามารถในการผลิตไฟฟ้าประมาณ 60,000 เมกะวัตต์ และมีรายได้รวม 44,289 ล้านยูโร ซึ่งมาจากธุรกิจพลังงาน 74% โกลว์จัดเป็นส่วนหนึ่งของ SUEZ Energy International (SEI) ซึ่งเป็นหน่วยธุรกิจของกลุ่ม SUEZ ที่ดูแลรับผิดชอบธุรกิจพลังงานในต่างประเทศภายนอกเขตยุโรป กลุ่ม SUEZ ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทมาตั้งแต่ปี 2543 และได้ให้การสนับสนุนทั้งในด้านกลุ่มผู้บริหารที่มีประสบการณ์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย
ทริสเรทติ้งกล่าวว่า ผลประกอบการของโกลว์ในปี 2549 น่าพอใจ โดยบริษัทสามารถรักษาระดับความพร้อมจ่ายของโรงไฟฟ้าขนาดเล็กให้อยู่ที่ 95% และการหยุดเดินเครื่องโรงไฟฟ้าโดยรวมอยู่ในระดับต่ำที่ 1% ระดับความพร้อมจ่ายของโรงไฟฟ้าอิสระของ GIPP อยู่ที่ 97.5% ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 83.7% ในปี 2548 ที่มีการปิดซ่อมบำรุงและหยุดเดินเครื่องโรงไฟฟ้าครั้งใหญ่ อัตราความร้อนเฉลี่ยของธุรกิจ SPP และ IPP ในปี 2549 เพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อยจากปี 2548 บริษัทมีรายได้จากการขายในปี 2549 เพิ่มขึ้น 14.4% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนเนื่องจากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น โดย GIPP ขายไฟฟ้าให้ กฟผ. เพิ่มขึ้น 17% จากปีก่อน ธุรกิจ SPP มีปริมาณการขายให้แก่ กฟผ. และลูกค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 2% และ 9% ตามลำดับ บริษัทมีอัตราส่วนรายได้จากการดำเนินงานต่อยอดขายลดลงจาก 29.0% เป็น 26.8% เนื่องจากต้นทุนเชื้อเพลิงที่เพิ่มสูงขึ้น สภาพคล่องของบริษัทยังคงอยู่ในระดับแข็งแกร่งเนื่องจากภาระหนี้สินที่ลดลงตามเวลาการชำระหนี้ ทั้งนี้ คาดว่าภาระหนี้สินของบริษัทจะไม่ลดลงจากระดับปัจจุบันมากนักเนื่องจากบริษัทมีแผนการออกตราสารหนี้เพื่อใช้ในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินแห่งใหม่ซึ่งมีกำลังการผลิต 115 เมกะวัตต์ ด้วยมูลค่าการลงทุน 7,000 ล้านบาท โดยได้เริ่มก่อสร้างในเดือนกุมภาพันธ์ 2550 และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2552
การขยายธุรกิจของกลุ่มโกลว์ในเขตนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดอาจมีข้อจำกัดจากการแข่งขันที่สูงขึ้นจากกลุ่ม ปตท. และผลกระทบจากมาตรการภาครัฐเกี่ยวกับการจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ แม้ขณะนี้จะยังไม่มีข้อสรุปในเรื่องการกำหนดมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมหรือมาตรการอื่นๆ ที่เข้มงวดยิ่งขึ้นจากภาครัฐ แต่ปัจจัยดังกล่าวน่าจะส่งผลกระทบต่อแผนการพัฒนาธุรกิจในพื้นที่ ในฐานะเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจด้านพลังงานรายใหญ่ของไทย แม้มิได้พิจารณาถึงความได้เปรียบที่มีอยู่ในเขตมาบตาพุด โกลว์ก็น่าจะเป็นหนึ่งในผู้ประมูลที่ได้รับใบอนุญาตในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าอิสระจากการประมูลที่จะมีขึ้น ทริสเรทติ้งกล่าว -- จบ
--------------------------------------------------------------------------------------------
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2550 ห้ามไม่มิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงมิได้รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้น ผลที่ได้รับ หรือการกระทำใดๆ โดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว
แนวโน้มอันดับเครดิต "Stable" หรือ "คงที่" สะท้อนถึงกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอของโกลว์จากการมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาวกับ กฟผ. และกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรม โดยคาดว่าบริษัทจะยังคงรักษาสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งเอาไว้ได้และมีความสามารถในการจัดสรรเงินทุนในการขยายธุรกิจโดยไม่กระทบต่อสถานะทางการเงิน
ทริสเรทติ้งรายงานว่า โกลว์ก่อตั้งเมื่อปี 2536 เพื่อประกอบธุรกิจด้านพลังงาน โครงสร้างธุรกิจของบริษัทประกอบด้วยผู้ผลิตไฟฟ้าอิสระรายเล็ก (SPP) 4 ราย และผู้ผลิตไฟฟ้าอิสระ (IPP) 1 รายจากทั้งหมด 7 รายในประเทศไทย กลุ่มโกลว์ถือเป็นกลุ่ม SPP ที่ใหญ่ที่สุดในไทยซึ่งมีกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งรวม 996 เมกะวัตต์ และมีกำลังการผลิตไอน้ำ 968 ตันต่อชั่วโมง โดยมี บริษัท โกลว์ไอพีพี จำกัด (GIPP) ซึ่งเป็นบริษัทลูกดำเนินธุรกิจภายใต้โครงการ IPP รับผิดชอบโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมขนาด 713 เมกะวัตต์ กำลังการผลิตไฟฟ้ารวมทั้งหมดของกลุ่มโกลว์มี 1,709 เมกะวัตต์ โดยมีสัญญา PPA อายุ 21-25 ปีเพื่อขายไฟฟ้าให้แก่ กฟผ. ในปริมาณรวม 76% ของกำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งหมด และมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า ไอน้ำ และน้ำปราศจากแร่ธาตุระยะยาวอายุประมาณ 10-20 ปีกับลูกค้าอุตสาหกรรม ซึ่งทำให้บริษัทมีรายได้ที่สม่ำเสมอ ในปี 2549 บริษัทมีรายได้จากการขายไฟฟ้าคิดเป็น 87% ของรายได้รวม โดยเป็นรายได้จาก กฟผ. 72% และจากลูกค้าอุตสาหกรรม 28% ของรายได้จากการขายไฟฟ้าทั้งหมด
ธุรกิจ SPP ของบริษัทซึ่งมีโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมตั้งอยู่ในเขตนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดและนิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ดในจังหวัดระยองส่วนใหญ่ให้บริการแก่ลูกค้าซึ่งเป็นโรงงานปิโตรเคมี หลังจากจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในเดือนเมษายน 2548 การถือหุ้นของกลุ่ม SUEZ ในโกลว์ได้ลดลงจาก 99% เป็น 69% SUEZ เป็นกลุ่มอุตสาหกรรมและบริการนานาชาติซึ่งดำเนินธุรกิจหลักด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม ในปี 2549 SUEZ มีความสามารถในการผลิตไฟฟ้าประมาณ 60,000 เมกะวัตต์ และมีรายได้รวม 44,289 ล้านยูโร ซึ่งมาจากธุรกิจพลังงาน 74% โกลว์จัดเป็นส่วนหนึ่งของ SUEZ Energy International (SEI) ซึ่งเป็นหน่วยธุรกิจของกลุ่ม SUEZ ที่ดูแลรับผิดชอบธุรกิจพลังงานในต่างประเทศภายนอกเขตยุโรป กลุ่ม SUEZ ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทมาตั้งแต่ปี 2543 และได้ให้การสนับสนุนทั้งในด้านกลุ่มผู้บริหารที่มีประสบการณ์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย
ทริสเรทติ้งกล่าวว่า ผลประกอบการของโกลว์ในปี 2549 น่าพอใจ โดยบริษัทสามารถรักษาระดับความพร้อมจ่ายของโรงไฟฟ้าขนาดเล็กให้อยู่ที่ 95% และการหยุดเดินเครื่องโรงไฟฟ้าโดยรวมอยู่ในระดับต่ำที่ 1% ระดับความพร้อมจ่ายของโรงไฟฟ้าอิสระของ GIPP อยู่ที่ 97.5% ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 83.7% ในปี 2548 ที่มีการปิดซ่อมบำรุงและหยุดเดินเครื่องโรงไฟฟ้าครั้งใหญ่ อัตราความร้อนเฉลี่ยของธุรกิจ SPP และ IPP ในปี 2549 เพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อยจากปี 2548 บริษัทมีรายได้จากการขายในปี 2549 เพิ่มขึ้น 14.4% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนเนื่องจากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น โดย GIPP ขายไฟฟ้าให้ กฟผ. เพิ่มขึ้น 17% จากปีก่อน ธุรกิจ SPP มีปริมาณการขายให้แก่ กฟผ. และลูกค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 2% และ 9% ตามลำดับ บริษัทมีอัตราส่วนรายได้จากการดำเนินงานต่อยอดขายลดลงจาก 29.0% เป็น 26.8% เนื่องจากต้นทุนเชื้อเพลิงที่เพิ่มสูงขึ้น สภาพคล่องของบริษัทยังคงอยู่ในระดับแข็งแกร่งเนื่องจากภาระหนี้สินที่ลดลงตามเวลาการชำระหนี้ ทั้งนี้ คาดว่าภาระหนี้สินของบริษัทจะไม่ลดลงจากระดับปัจจุบันมากนักเนื่องจากบริษัทมีแผนการออกตราสารหนี้เพื่อใช้ในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินแห่งใหม่ซึ่งมีกำลังการผลิต 115 เมกะวัตต์ ด้วยมูลค่าการลงทุน 7,000 ล้านบาท โดยได้เริ่มก่อสร้างในเดือนกุมภาพันธ์ 2550 และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2552
การขยายธุรกิจของกลุ่มโกลว์ในเขตนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดอาจมีข้อจำกัดจากการแข่งขันที่สูงขึ้นจากกลุ่ม ปตท. และผลกระทบจากมาตรการภาครัฐเกี่ยวกับการจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ แม้ขณะนี้จะยังไม่มีข้อสรุปในเรื่องการกำหนดมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมหรือมาตรการอื่นๆ ที่เข้มงวดยิ่งขึ้นจากภาครัฐ แต่ปัจจัยดังกล่าวน่าจะส่งผลกระทบต่อแผนการพัฒนาธุรกิจในพื้นที่ ในฐานะเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจด้านพลังงานรายใหญ่ของไทย แม้มิได้พิจารณาถึงความได้เปรียบที่มีอยู่ในเขตมาบตาพุด โกลว์ก็น่าจะเป็นหนึ่งในผู้ประมูลที่ได้รับใบอนุญาตในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าอิสระจากการประมูลที่จะมีขึ้น ทริสเรทติ้งกล่าว -- จบ
--------------------------------------------------------------------------------------------
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2550 ห้ามไม่มิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงมิได้รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้น ผลที่ได้รับ หรือการกระทำใดๆ โดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว