ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ โค และ โตชิบา คอร์ป ผู้ผลิตแฟลชเมโมรีชิป 2 รายใหญ่ของโลก เปิดเผยว่ากระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้ยุติการสืบสวนกรณีละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาดทางการค้าซึ่งกินเวลานานถึง 2 ปีเรียบร้อยแล้ว
ลี อึน ฮี โฆษกหญิงของซัมซุง กล่าวว่า ทางกระทรวงยุติธรรมได้ยืนยันข้อมูลดังกล่าวกับซัมซุงแล้ว ด้านเคสุเกะ โอโมริ โฆษกของโตชิบา เผยว่าโตชิบาสาขาสหรัฐก็ได้รับข้อมูลดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม จีน่า ทาลาโมนา โฆษกหญิงของกระทรวงยุติธรรม ยังปฏิเสธที่จะให้ความเห็นในตอนนี้
บลูมเบิร์กรายงานว่า กระทรวงยุติธรรมเริ่มสืบสวนกรณีดังกล่าวในเดือนก.ย.ปี 2550 หลังได้รับรายงานว่าอาจมีการสมยอมกันตั้งราคาสินค้าในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งผลการสืบสวนครั้งนั้นส่วงผลให้บริษัท 4 แห่ง ซึ่งรวมถึงซัมซุง ต้องถูกปรับเป็นเงิน 731 ล้านดอลลาร์
Dramexchange Technology Inc. ผู้บริหารตลาดซื้อขายเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่สุดของเอเชีย รายงานว่า ในไตรมาส 2 ของปีนี้ ซัมซุงมียอดขายแฟลชเมโมรีชิป 37.2% ของยอดขายทั้งหมดในตลาด ตามมาด้วยโตชิบาที่ 34.5% ส่วนทางด้านบริษัทวิจัย iSuppli Corp. กล่าวเมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมาว่า แฟลชเมโมรีชิปอาจมียอดขายลดลง 25% แตะ 8.8 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้
ซัมซุง, โตชิบา และ เรเนซัส เทคโนโลยี คอร์ป ซึ่งเกิดจากการควบรวมระหว่างฮิตาชิและมิตซูบิชิ กล่าวไว้เมื่อปี 2550 ว่าจะให้ความร่วมมือกับกระทรวงยุติธรรมในการสืบสวน ด้านแซนดิสก์ คอร์ป ผู้ผลิตแฟลชเมโมรีการ์ดรายใหญ่สุดของโลก ก็ถูกหมายเรียกเช่นกัน ซึ่งหมายเรียกใบหนึ่งเป็นของอีไล ฮารารี ซีอีโอของบริษัท