นายเกา ปิง ประธานบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่เปิดเผยในวันนี้ว่า หัวเว่ยจะดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับห่วงโซ่อุปทานของบริษัทซึ่งถูกโจมตีจนได้รับความเสียหายในช่วงก่อนหน้านี้
นายเกาเปิดเผยเรื่องดังกล่าวในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ในงาน "Huawei Connect" ซึ่งเป็นงานประจำปีที่จัดขึ้นในนครเซี่ยงไฮ้
อย่างไรก็ดี นายเกาไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับห่วงโซ่อุปทานของหัวเว่ยที่ถูกโจมตี
ที่ผ่านมานั้น หัวเว่ยเผชิญแรงกดดันอย่างหนักจากสหรัฐ โดยเมื่อเดือนที่แล้ว สหรัฐได้ออกมาตรการคุมเข้มเพิ่มเติมเพื่อขัดขวางหัวเว่ยไม่ให้เข้าถึงอุปกรณ์ชิป
อย่างไรก็ดี เมื่อวานนี้รัฐบาลสหรัฐได้ให้ใบอนุญาตแก่บริษัทอินเทล คอร์ป ซึ่งทำให้อินเทลสามารถจัดหาสินค้าให้กับหัวเว่ย
ส่วนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว บริษัทเซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง อินเตอร์เนชันแนล คอร์ปอเรชัน (SMIC) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปชั้นนำของจีน ก็ได้ยื่นขออนุมัติเพื่อให้บริษัทยังคงให้บริการแก่หัวเว่ยด้วย โดย SMIC ใช้อุปกรณ์ที่นำเข้าจากสหรัฐเพื่อผลิตชิปให้กับหัวเว่ยและบริษัทอื่นๆ
ทั้งนี้ การที่ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและจีนเป็นไปอย่างตึงเครียดมากที่สุดในรอบหลายสิบปี ทำให้สหรัฐพยายามกดดันให้รัฐบาลทั่วโลกบีบหัวเว่ย โดยรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์มองว่า หัวเว่ยเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของสหรัฐ และเชื่อว่าอุปกรณ์ของหัวเว่ยอาจถูกใช้เพื่อทำการจารกรรมข้อมูลทางไซเบอร์ ขณะที่หัวเว่ยปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว